ไม่พบผลการค้นหา
ประเทศไทยกำลังถูกจับตามองจากนานาประเทศว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.2562 ตามที่เคยให้คำมั่นสัญญาไว้หรือไม่ และไทยจะมีบทบาทเพิ่มเติมในเวทีโลกอย่างไรหลังการเลือกตั้ง

วอยซ์ออนไลน์ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล ถึงมุมมองของไทยในสายตาประชาคมโลก ณ ปัจจุบัน แต่ละประเทศมีท่าทีหรือมุมมองที่เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะท่าทีต่อการเลือกตั้งที่ผู้นำรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศไว้ในเวทีโลก

ในสายตาของประชาคมโลก ตอนนี้เขามองสถานการณ์การเมืองไทยอย่างไรบ้าง?

สำหรับในสายตาต่างชาติก็ขึ้นอยู่กับชาติไหนจะมองเราอย่างไร ทางจีนก็คงไม่ได้สนใจนักว่าประเทศเราจะเป็นอย่างไร เพราะจีนไม่ได้มองการเมืองภายในของประเทศต่างๆ ถ้าหันมาทางสหรัฐอเมริกาก็มีการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควรในสมัยของประธานาธิบดี (โดนัลด์) ทรัมป์ ตอนนี้นโยบายสหรัฐฯ ค่อนข้างจะเน้นความสัมพันธ์ในรูปแบบทวิภาคีมากกว่าในเรื่องของหลักการหรือเรื่องของประชาธิปไตย ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และอดีตประธานาธิบดี (บารัก) โอบามา

ซึ่งในสมัยโอบามาจะให้ความสำคัญในการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยและการจัดการเลือกตั้งมากกว่า แต่ทั้งนี้ ทางสหรัฐฯ เองก็ยังจับตามองการจัดการเลือกตั้งตามที่ทางรัฐบาลได้ประกาศออกมา แต่ก็จะไม่เข้มข้นเหมือนกับสมัยอดีตประธานาธิบดีโอบามา และถ้าหันมาดูทางประชาคมยุโรป (EU) ปัจจุบันให้ความสำคัญในการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยมากที่สุดยิ่งกว่าสหรัฐ ทั้งนี้ทางอียูได้ให้ความสำคัญกับการจับตามองเราว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งตามที่ได้มีการประกาศไว้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นในปีนี้หรือกุมภาพันธ์ปีหน้าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ 

ถ้ามีการเลือกตั้งแล้วความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับชาติต่างๆ จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติหรือไม่?

ถ้ามีการเลือกตั้งก็จะกลับไปสู่ความสัมพันธ์ในภาวะปกติ ประเทศที่พยายามสนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศอื่นๆ มักจะมองการเลือกตั้งเป็นหลัก แต่จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวถึงกฎหมายหรือกฎเกณฑ์การเลือกตั้ง เพียงแต่จะเข้ามาดูว่ามีการจัดการเลือกตั้งหรือไม่ และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกติกาที่แต่ละประเทศนั้นๆ ได้ตั้งไว้หรือไม่ ทั้งนี้นานาชาติจะไม่เข้าไปดูว่าการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ภายใต้กติกาที่ควรหรือไม่ควรตามประเพณีที่ปฏิบัติกันมาในเวทีการทูต


อนาคตของไทยในเวทีโลกขึ้นอยู่กับผู้นำของเรา หลักๆอยู่ที่นายกรัฐมนตรีของไทยและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ความสำคัญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งและวิสัยทัศน์เชิงการทูตมีความสำคัญมาก


ความสัมพันธ์ของเรากับประชาคมโลกหลังรัฐประหารที่ผ่านมาถือว่าตกต่ำลงไหม?

บทบาทในอดีตที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ของไทยกับประเทศต่างๆ เปลี่ยนไป ปัจจุบันความสัมพันธ์เรากับจีนแน่นเฟ้นมากขึ้น และถ้าดูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับชาติต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับยุโรปก็จะมีปัญหาตรงที่เขาอยากให้เรามีการเลือกตั้ง แต่ในทางกลับกัน ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เราเคยมีปัญหามาก่อน แต่พอกับทรัมป์ มันก็เปลี่ยนไปในระดับหนึ่ง แต่กับภูมิภาคละตินอเมริกา เราสามารถมองให้เป็นเวทีของไทยให้มากขึ้น เพราะมีช่องทางที่บริษัทไทย ตั้งแต่ในระดับร้านอาหารจนถึงธุรกิจอื่นๆ สามารถเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ได้มากขึ้น และถ้ามองในตอนนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ไทยจะก้าวเข้าไปมีบทบาทการค้าในเวทีโลกที่เพิ่มมากขึ้น

อนาคตของไทยในเวทีโลกต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ?

อนาคตของไทยในเวทีโลกขึ้นอยู่กับผู้นำของเรา หลักๆ อยู่ที่นายกรัฐมนตรีของไทยและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของไทย ความสำคัญของผู้ที่ดำรงตำแหน่งและวิสัยทัศน์เชิงการทูตก็มีความสำคัญมาก โดยที่อยากให้ไทยเข้าไปมีบทบาทในเวทีในระดับภูมิภาคและระดับโลกมากขึ้น ไทยควรมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในประชาคมโลกมากขึ้น ดังเช่นในอดีตที่ผ่านมาที่ไทยได้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ของโลก เช่น เกาหลีเหนือ หรืออิหร่าน ดังนั้น ความสัมพันธืของเรากับประชาคมโลกในตอนนั้นค่อนข้างดีมาก