ไม่พบผลการค้นหา
ผลการเลือกตั้งมาเลเซียพลิกล็อกครั้งใหญ่ แนวร่วมพรรคฝ่ายค้านที่มีมหาเธร์ โมฮัมหมัดเป็นแกนนำคว้าชัยชนะได้ที่นั่งเสียงข้างมากเตรียมจัดตั้งรัฐบาล ยุติการปกครองนานกว่า 6 ทศวรรษของแนวร่วมพรรครัฐบาล

ผลนับคะแนนการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของมาเลเซียระบุว่า แนวร่วมพรรคฝ่ายค้านพีเอช ซึ่งมี น.พ.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นแกนนำคว้าที่นั่ง ส.ส.ในรัฐสภาไปได้แล้ว 113 ที่นั่ง จากทั้งหมด 222 ที่นั่ง เกินกว่าจำนวนที่จะต้องได้ 112 ที่นั่งเพื่อจะได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่แนวร่วมพรรครัฐบาลบีเอ็นที่มีนายนาจิบ ราซักเป็นแกนนำได้ที่นั่งไป 79 ที่นั่ง ผลการนับคะแนนที่ออกมาทำให้น.พ.มหาเธร์ออกมาประกาศชัยชนะแล้วพร้อมทั้งระบุว่าจะสาบานตนรับตำแหน่งในวันนี้คือ 10 พ.ค. 



ahu02.jpg

น.พ.มหาเธร์ในวัย 92 ปี ซึ่งกำลังจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดในโลก เคยเป็นส่วนสำคัญของแนวร่วมพรรครัฐบาลบีเอ็น และเคยเป็นผู้ให้คำปรึกษาและเป็นครูทางการเมืองแก่นายนาจิบ แต่ได้ถอนตัวออกจากแนวร่วมในปี 2016 เพราะขัดแย้งกับนายนาจิบในหลายเรื่องด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องที่นายนาจิบถูกกล่าวหาว่าพัวพันการทุจริต นำเงินจากกองทุนวันเอ็มดีบีของรัฐบาลเข้ากระเป๋าตัวเองเป็นเงินกว่า 700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อกล่าวหานี้มีส่วนอย่างสำคัญที่ทำให้คะแนนเสียงของแนวร่วมพรรครัฐบาลลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่

"เราจะไม่แก้แค้น เราจะทำให้บ้านเมืองกลับสู่สภาพมีขื่อมีแปอีกครั้ง แต่ใครก็ตามที่ทำผิดกฎหมายจะต้องขึ้นศาล" มหาเธร์กล่าวท่ามกลางเสียงโห่ร้องของกลุ่มผู้สนับสนุนในระหว่างการแถลงข่าว

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้นับว่านอกเหนือความคาดหมายของหลายๆ ฝ่าย ก่อนการเลือกตั้ง ผลสำรวจของทุกสำนักบ่งชี้ว่า แนวร่วมพรรครัฐบาลจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ เนื่องจากมีการแก้ไขระบบการเลือกตั้งในนาทีสุดท้ายให้เอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายรัฐบาลมากกว่า ชัยชนะครั้งนี้ของแนวร่วมพรรคฝ่ายค้านพีเอช ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับมาเลเซีย ซึ่งปกครองโดยแนวร่วมรัฐบาลบีเอ็นมายาวนานถึง 61 ปีนับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี 1957 น.พ.มหาเธร์เองเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายใต้พรรคนี้อย่างยาวนานถึง 22 ปีจนกระทั่งเกษียณทางการเมืองแม้จะยังมีบทบาทอย่างมาก

'ประวิตร' ยินดี 'มหาเธร์' ชนะเลือกตั้ง ยันไม่กระทบสันติภาพชายแดนใต้

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุว่า นโยบายระหว่างประเทศของไทยไม่เปลี่ยนแปลง แต่ต้องรอดูนโยบายของมาเลเซียอีกครั้ง อย่างไรก็ตามไม่กังวล และไม่คิดว่าจะมีปัญหาเพราะเชื่อว่าทางมาเลเซียก็ต้องการให้เกิดความสงบ ส่วนนโยบายการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นการพูดคุยระหว่างประเทศ ซึ่งคงได้พบกับ รมว.กลาโหมคนใหม่ของมาเลเซีย แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ทั้งนี้ตนไม่ได้รู้จักนายมหาเธร์ เป็นการส่วนตัว

ส่วนปรากฎการณ์ที่นายมหาเธร์ชนะการเลือกตั้ง ในขณะนายนาจิบ ราซัค โดนข้อหาคอรัปชั่นอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนพูดไม่ได้ เพราะไม่ได้ติดตามรายละเอียด แต่ก็ต้องแสดงความยินดีกับนายมหาเธร์ เชื่อว่าการเปลี่ยนขั้วการเมืองในมาเลเซียจะไม่กระทบกับไทย เพราะคุยกันได้ และไทยก็ดีกับทุกคน

'เพื่อไทย' ได้ทียกผลเลือกตั้งมาเลเซีย จี้ คสช.เร่งเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสิน

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุถึงผลการเลือกตั้งของมาเลเซียว่า มีบทเรียนสอนใจที่น่าสนใจคือ ไม่ว่าอำนาจ จะมีมากล้นเท่าไร จะยึดครอง หรือควบคุมการบริหารประเทศมายาวนานเพียงใด เหมือนที่พรรคอัมโนซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ครองอำนาจมายาวนานนับหลายสิบปี แต่เมื่อถึงวันที่ประชาชนตัดสินใจเลือก หากไม่ได้นั่งอยู่ในหัวใจประชาชน ไม่ได้บริหารประเทศ ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน วันเลือกตั้งจะเป็นวันที่พี่น้องประชาชน ตัดสินรัฐบาล

ดังนั้นหากรัฐบาลของคณะผู้ยึดอำนาจการปกครองเข้ามาด้วยวิธีพิเศษ ตลอดเวลา 4 ปี ที่บริหารประเทศ ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่พึงพอใจของพี่น้องประชาชน ขาดความโปร่งใส มีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเคลือบแคลง โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นอย่างที่กำลังเกิดขึ้นมากมายเช่นในปัจจุบัน ถือเป็นสัญญาณอันตราย หากหัวหน้า คสช.หรือใครก็ตามในรัฐบาล กล้าประกาศว่า “ประชาชนต้องการให้ตนอยู่ในอำนาจต่อ เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน” ถ้ามีความมั่นใจ และอยากรู้ว่าประชาชนคิดอย่างไรกับรัฐบาลของท่านจริงๆ ต้องรีบจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว

ภาพ: AP