เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.แถลงผลการประชุม ศบค.ว่า ศบค. เห็นชอบการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตทั่วท้องที่ราชอาณาจักร เป็นคราวที่ 13 ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ถึง 30 ก.ย. 2564 เพื่อประโยชน์ในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ศบค.เห็นชอบสำหรับการยกระดับมาตรการ พื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร เริ่มวันที่ 12 ก.ค.เป็นต้นไป ดังนี้
-ขอให้มีมาตรการเวิร์คฟอร์มโฮมให้มากที่สุด
-ระบบขนส่งสาธารณะ ปิดให้บริการ 21.00 น. ถึง 04. 00 น.
-ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดในเวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น.
-ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคารและสถาบันการเงิน ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ อุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน ทั้งนี้ เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.
-ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ห้ามบริโภคอาหาร เครื่องดื่ม สุรา ในร้านโดย เปิดถึงเวลา 20.00 น.
-ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม
-สวนสาธารณะ สามารถเปิดให้บริการสำหรับการออกกำลังกายได้ถึงเวลา 20.00 น.
-ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคมที่มิใช่การการประกอบกิจกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมตามประเพณี ที่มีการรวมตัวกันของบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นครปฐม นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปัตตานี ยะลา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา โดยมีมาตรการ เริ่มวันที่ 12 ก.ค.เช่นกัน
-โรงเรียนให้เรียนออนไลน์เท่านั้น
-ห้ามออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็นหรือได้รับอนุญาตเป็นรายกรณี
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ให้หน่วยงานด้านความมั่นคงตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จุดลาดตระเวน โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (10 จังหวัด : กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ มุทรสาคร สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.64 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง