นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การตรวจสอบการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุว่าเหตุแห่งการล่าช้าเกิดจากอะไร คณะกรรมาธิการจะตรวจสอบตั้งแต่ตัวสัญญาที่ทำไว้ เพระหากเดินตามสัญญาก่อสร้างเริ่มต้นตั้งแต่เซ็นสัญญามิถุนายน ปี 2556 จะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนปี 2558 หรือ 900วันตามสัญญา
การก่อสร้างจริงเริ่มต้นในปี 2557 ทั้งนี้ทางบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับจ้างอ้างว่ามีการส่งมอบพื้นที่ทำให้การก่อสร้างล่าช้าตามไปด้วย รวมทั้งมีการแก้แบบก่อสร้าง และการนำดินที่ขุดได้ไปทิ้ง ซึ่งไม่เป็นไปตามสัญญาเดิม ดังนั้น ในสัญญาเขียนมัดไว้ว่าหากเป็นความผิดผู้ว่าจ้างทางผิดสัญญาผู้ว่าจ้าง จำเป็นต้องต่อสัญญาการก่อสร้างออกไปที่ผ่านมามีการต่ออายุการก่อสร้างไป 3 สัญญาคิดเป็นเวลาทั้งสิ้น 1400 วัน
นายชลน่าน กล่าวด้วยว่า ในการก่อสร้างและส่งมอบงานจนถึงวันนี้มีการก่อสร้างอาคารเพียงร้อยล่ะ 70 เท่านั้น และในทุกครั้งที่มีการส่งมอบงานไม่มีครั้งไหนที่เสร็จสมบูรณ์ การส่งมอบงานของผู้รับจ้างมาไม่เป็นไปตามสัญญา ซึ่งทางผู้รับจ้างอ้างว่าเป็นผลมาจากการวางระบบไอทีและระบบสาธารณูปโภค การก่อสร้างเลยไม่สามารถทำได้ต้องรอการวางระบบไอทีก่อน
นอกจากนี้ ในสัญญาระบุว่า หากการก่อสร้างล่าช้าไม่เป็นตามสัญญา ทางรัฐสภาก็ไม่สามารถเรียกค่าเสียหายจากบริษัทรับเหมาได้ เพราะผู้ว่าจ้างผิดสัญญาก่อน นอกจากนั้นผู้รับเหมาก็ไม่สามารถเรียกค่าเสียหายจากรัฐสภาได้เช่นกัน เพราะในสัญญาระบุไว้ ดังนั้นการต่อสัญญาครั้งล่าสุดอีก382 วันอย่างลี่ยงไม่ได้ เชื่อว่าการก่อสร้างก็ยังไม่แล้วเสร็จ
“ที่น่าเป็นห่วงคือในสัญญาที่เขียนไว้มีความบกพร่องมาก หวั่นว่ารัฐจะมีการเสียค่าโง่เหมือนกรณีคลองด่าน ซึ่งสัญญาของการก่อสร้างรัฐสภาก็ไม่ต่างกัน รวมทั้งเชื่อว่าจะมีการต่อสัญญาก่อสร้างครั้งที่ 5 แน่นอน เพราะอ้างปรับค่าแรงงานขั้นต่ำ เอกชนสามารถต่อสัญญาได้ 150 ตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนั้นผู้รับจ้างเอากรณีนี้มาขอต่อสัญญาอีกครั้งแน่นอน เชื่อว่าในปี 2565รัฐสภาใหม่จึงน่าแล้วเสร็จ”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: