อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาวัคซีนและการสนับสนุนการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของคนไทย ว่า คณะแพทยศาสต์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มารายงานความคืบหน้าการทดลองวัคซีนในส่วนของคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ โดยรัฐบาลให้การสนับสนุนงบประมาณไปกว่า 370 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นผ่านการทดลองในสัตว์ทดลองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ตอนนี้กำลังจองวัตถุดิบต่างๆโดยจะผลิตเป็นวัคซีนตัวอย่าง เพื่อฉีดในอาสาสมัครภายในเดือนเมษายน 2564 โดยทางจุฬาฯ ได้ขอสนับสนุนเพิ่มเพื่อจัดซื้อวัตถุดิบในการผลิตวัคซีน ซึ่งการให้งบจะให้เป็นช่วงๆ" อนุทินกล่าว
อนุทินกล่าวอีกว่า งบประมาส่วนนี้มาจากโครงการเงินกู้ 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องใช้อย่างระมัดระวังหากจำเป็นก็ต้องใช้ หากไม่จำเป็นก็จะไม่ใช้ จะเสี่ยงไม่ได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะที่จองไว้กับมหาวิทยาลัย Oxford บริษัทแอสต้าเซ็นก้า 26 ล้านโดส จะได้ประมาณกลางปี แต่ก็ยังไม่เพียงพอ หากมีวัคซีนจากทางจุฬาฯ ที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องผ่านการยืนยันความปลอดภัยเรื่องประสิทธิภาพและคุณภาพก่อน ก็จะทำให้เกิดความมั่นคงและทำให้เกิดการกระจายวัคซีนได้มากขึ้น
ส่วนโครงการที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปิดรับบริจาคคนละ 500 บาทนั้นเป็นคนละส่วนกัน ซึ่งเป็นส่วนของบริษัทไฟโตฟาร์มของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการผลิตของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนี้ถือเป็นการผลิตจากคนไทยเพื่อคนไทย
"หากสำเร็จได้ให้นึกว่าประเทศไทยจะเป็นศูนย์รวมควบคุมโรค ป้องกันโรค รักษาโรค ครบวงจร" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าว
ทั้งนี้อนุทิน ยืนยันว่า การทดลองฉีดวัคซีนในกลุ่มตัวอย่างจะไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยจะเลือกฉีดในกลุ่มเสี่ยงก่อน
"แต่ไม่ต้องฉีดทั้ง 70 ล้านคน ใครไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ไม่ต้องฉีด โดยกรมควบคุมโรคจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อคัดกรองกลุ่มเสี่ยง" อนุทินกล่าว
ส่วนกรณีพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น อนุทินกล่าวว่า มีการระดมสรรพกำลังเต็มที่ คิดว่าสามารถควบคุมการแพร่กระจายของโรคได้โดยตนได้สั่งการให้อธิบดีกรมควบคุมโรคห้ามออกจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเพื่อคอยสอบสวนโรครวมถึง-วงจำกัดผู้ที่มีความเสี่ยงโรคซึ่ง
"รู้สึกเป็นห่วงแม่ของผู้ติดเชื้อที่มีอายุ 95 ปี เนื่องจากเข้าข่ายความเสี่ยงสูงแต่ขณะนี้ถึงมือหมอแล้วและมีรายงานว่าจะมีการเพิ่มตรวจการตรวจเชื้อหลายพันคนเพื่อให้เกิดความสบายใจมากขึ้น ขออย่าตื่นตระหนกจนเกินไปและสวมหน้ากากอนามัยและล้างมือ" อนุทินกล่าว
ส่วนสาเหตุการติดเชื้ออธิบดีกรมควบคุมโรคได้รายงานว่ามาจากแรงงานต่างด้าว เนื่องจากคนที่อยู่ในเรือประมงเมื่อเรียกมาแล้วกว่าจะบอกความจริง ต้องเค้นเพื่อพิสูจน์ความจริง อย่างการพิสูจน์ผ่านทางโทรศัพท์ว่าโทรจากที่ใดไปที่ใดเพื่อให้รู้ต้นตอของโรค
"จะต้องปิดเคสนี้ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้ ถ้าพบผู้ป่วยเรารักษาได้ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยยังไม่แสดงอาการถึงขั้นตรีทูต (ลักษณะบอกอาการของคนใกล้เสียชีวิต) จึงสามารถรักษาได้ในระยะเวลารวดเร็ว โอกาสการกระจายเชื้อก็น้อย โควิดนั้นมีส่วนแข็งแรงและไม่แข็งแรงพยายามจับส่วนที่อ่อนแอมาบี้" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าว
ส่วนจำเป็นให้ผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวต้องตรวจโลกทุกคนหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า หากเป็นการลักลอบนำแรงงานเข้ามาเป็นการผิดกฎหมายต้องตรวจ และหากเป็นผู้เข้ามาอย่างถูกต้องอาจมีจำนวนมากอาจเป็นการทดสอบแบบกลุ่ม หากกลุ่มไหนไม่พบเชื้อก็ปล่อยตัวได้เชื้อ
การทำแบบนี้ก็เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณ กรมควบคุมโรคพยายามหาวิธีหาวิธีให้เกิดความรวดเร็วและประหยัดงบประมาณ เรื่องพวกนี้หากไม่ได้รับความร่วมมืออย่างทุกคนก็จะเกิดความเสียหาย ส่วนจะสามารถออกคำสั่งตาม พรก. ฉุกเฉินให้ผู้ประกอบการนำแรงงานไปตรวจโรคทุกคนได้หรือไม่ก็สามารถทำได้ แต่ยังไม่ถึงจุดนั้นหากถึงจุดนั้น
"ผมทำแน่นอน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการระบาดวงกว้างยังคงเป็นบุคคลที่สามารถตามตัวเจอได้ โดยในวันพรุ่งนี้จะลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครไปคุยกับผู้ประกอบการว่าอย่าทำผิดกฎหมาย และต้องรู้ที่มาที่ไปของแรงงานว่ามีใบอนุญาตทำงานหรือไม่" อนุทินกล่าว