ช่วงเวลากว่า 9 ปี นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2507 – 2516 พื้นที่บริเวณ สปป.ลาวได้กลายเป็นสมรภูมิรบต่อสู้ต่อต้านคอมมิวนิสต์ทั้งในภาคพื้นดินและทางอากาศอย่างรุนแรง ชาติพันธมิตรทิ้งระเบิดกว่า 2 ล้านตัน ลงสู่ภาคพื้นของ สปป.ลาว ระเบิดขนาดใหญ่กว่า 4 ล้านลูก และระเบิดพวงที่มีมากกว่า 270 ล้านลูก ยังคงถูกฝังอยู่ใต้พื้นดิน และในแต่ละปีประชาชนจำนวนหลายสิบคนต่างต้องประสบอุบัติเหตุเหรือเสียชีวิตจากระเบิดเหล่านี้ที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน

ปัจจุบันหลายองค์กรทั้งของภาครัฐลาว และองค์กรเก็บกู้ระเบิดสากลจากทั้งสวิตเซอร์แลนด์และสหรัฐฯ ต่างเข้ามาช่วยเหลือในการค้นหาและเก็บกู้ระเบิดที่ยังไม่ทำงานเหล่านี้มาเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถเก็บกู้ได้ถึงครึ่งหนึ่งของระเบิดที่ถูกปล่อยลงมาในช่วงสงครามเย็น

พื้นที่แขวงอัตตะปือ ทางตอนใต้ของ สปป.ลาว ถือเป็นแขวงหนึ่งที่มีระเบิดตกค้างที่ยังไม่ทำงานหลงเหลือมากที่สุดแห่งหนึ่ง พื้นที่กว่า 1,977 ไร่ในเมืองสะหนามไซ ที่เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ 'เขื่อนแตก' เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมายังคงมีหลายจุดที่ยังเป็นอันตรายเนื่องจากระเบิดจำนวนหลายล้านลูกยังคงถูกฝังอยู่ในชั้นใต้ดิน 

(เต็นท์ชั่วคราวของเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดกว่า 11 ชีวิตในจุดเขตดงบาก)

นายบลอสซัม กิลมูร์ ผู้อำนวยการของกลุ่มที่ปรึกษากับระเบิด หรือเอ็มเอจี จากหน่วยบรรเทาทุกข์ของอังกฤษ ที่ทำภารกิจเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ยังไม่ทำงานกล่าวว่าเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นอันตรายอย่างมากที่มีวัตถุระเบิดที่ยังไม่ทำงานอยู่ในพื้น ซึ่งเราจะต้องหาทางเก็บกู้และเคลื่อนย้ายออกไป แม้จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับการสำรวจและเก็บกู้ระเบิดแล้วแต่ก็จำต้องตรวจตราให้ละเอียดอีกครั้ง เพราะคนที่อพยพเข้ามาอยู่อาศัยอาจลงหลักปักฐานในพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการสำรวจและเก็บกู้

การพบระเบิดจำนวน 10 กว่าลูกนี้ก็ยังถือว่าน้อย เพราะว่าในบางพื้นที่ที่สามารถพบระเบิดมากกว่า 100 ลูกก็มี

ทีมงานวอยซ์ ออนไลน์ได้ลงไปยังพื้นที่เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า การจัดสรรพื้นที่พักอาศัยชั่วคราวให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งใหญ่นี้ยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะการหาพื้นที่เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน ซึ่งทางการ สปป.ลาวต้องรีบเร่งสำรวจพื้นที่และทำการกำจัดระเบิดที่ยังไม่ทำงานให้หมด ก่อนที่จะมีการก่อสร้างบ้านพักชั่วคราวให้แก่ประชาชนกว่า 4,000 คนที่ไร้ที่อยู่อาศัย

(เครื่องมือตรวจระเบิดของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเก็บกู้ระเบิด)

ท้าวสุกกะสัน เวียงคำ หัวหน้าทีมเก็บกู้ระเบิดในเขตดงบาก บ้านมิดสำพัน เมืองสะหนามไซ แขวงอัตตะปือ กล่าวว่า "ในเมืองสะหนามไซนี้มีพื้นที่ที่ต้องเก็บกู้ระเบิดจำนวน 4 แห่งคือ เขตดงบาก เขตดอนบก เขตตำมะยอด และเขตปินดง ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่มีการสร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราวให้กับประชาชน และตอนนี้การสำรวจและเก็บกู้ระเบิดสำเร็จลุล่วงไปเพียงแค่ 1 แห่งเท่านั้น คือเขตดงบาก โดยพบเจอระเบิด 9 ลูกในพื้นที่ 50,126 ตารางเมตร ขณะที่พื้นที่อีก 3 แห่งที่เหลือยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะสำรวจและทำลายระเบิดให้เสร็จสิ้นทั้งหมดได้เมื่อไหร่"

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า "ระเบิดที่พบนี้เป็นระเบิดพวง หรือระเบิดลูกหว่าน ขนาดเล็กเท่านั้น และการพบระเบิดจำนวน 9 ลูกนี้ก็ยังถือว่าน้อย เพราะว่าในบางพื้นที่ที่สามารถพบระเบิดมากกว่า 100 ลูกก็มี"

(ระเบิดที่ค้นพบและรอการทำลาย)

สำหรับปัญหาและอุปสรรคสำคัญที่ทำให้การเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่ต่างๆ เป็นไปด้วยความล่าช้านั้น เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นเพราะเรื่องของดินฟ้าอากาศที่ไม่เป็นใจ เนื่องจากฝนที่ตกลงมากอย่างต่อเนื่องในเมืองสะหนามไซ ทำให้การค้นหาระเบิดเป็นไปด้วยความยากลำบาก และอุปสรรคที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การเข้าถึงพื้นที่ในเขตต่างๆ โดยเพราะในพื้นที่ที่เป็นป่า ที่ทางทีมเก็บกู้ระเบิดต้องมีการบุกเบิกเข้าไป รวมไปถึงความจำเป็นในการต้องทำลายต้นไม้ใหญ่ๆเพื่อให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้

อย่างไรก็ตาม ทางการลาวมีแผนที่จะสร้างบ้านพักอาศัยชั่วคราวให้ครบทั้ง 4 เขตภายในสิ้นปี 2561 นี้ และทางทีมงานเก็บกู้ระเบิดจะต้องทำการสำรวจพื้นที่อื่นๆ ในเมืองสะหนามไซอีกหลายสิบไร่ เพื่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยถาวรและทำการบุกเบิกพื้นที่ทำเกษตรกรรมที่ทางรัฐบาลจะทำการจัดสรรให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยกว่า 4,000 คน