สืบเนื่องจากผู้สอบบัญชีของ PACE ไม่ให้ข้อสรุปต่องบกำไรขาดทุนรวมงวดไตรมาส 2 และ 3 ปี 2560 เนื่องจากไม่สามารถสรุปผลการสอบรายงานประเมินมูลค่ายุติธรรมในการลงทุนในหุ้นของบริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด ซึ่งประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินรายหนึ่ง เกี่ยวกับประมาณการรายได้ของจุดชมวิวบนอาคารโครงการมหานคร โดยใช้สมมติฐานที่ได้มาจากการคาดการณ์ตัวเลขในอนาคต ในขณะที่ PACE นำผลประเมินไปบันทึกเงินลงทุนดังกล่าว จำนวน 8,231 ล้านบาท และรับรู้ผลกำไรจากการสูญเสียอำนาจควบคุมในบริษัทย่อย จำนวน 8,857 ล้านบาท
การใช้สมมติฐานที่สมเหตุสมผลในการวัดมูลค่าเงินลงทุนเป็นเรื่องสำคัญและมีผลกระทบต่อความถูกต้องของจำนวนเงินลงทุนและกำไรจากการสูญเสียอำนาจการควบคุมในบริษัทย่อยที่รับรู้อย่างมาก ประกอบกับ PACE ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลและสมมติฐานที่สำคัญในหมายเหตุประกอบงบการเงินให้ครบถ้วนและชัดเจน อาทิ ประมาณการจำนวนคนที่จะมาใช้บริการ จึงอาจทำให้เกิดความคลุมเครือและอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหุ้นหรือต่อการตัดสินใจลงทุน ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้ PACE ชี้แจงข้อมูลและสมมติฐานสำคัญที่ใช้ในการประเมินมูลค่ายุติธรรม ความสมเหตุสมผลและผลการทบทวนของสมมติฐาน รวมทั้งผลการวิเคราะห์ความอ่อนไหว (sensitivity analysis) โดยให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 14 วัน
นอกจากนี้ หากผลการทบทวนสมมติฐานกระทบต่อมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนและตัวเลขในงบการเงินที่เคยนำส่งต่อสำนักงานและเปิดเผยต่อสาธารณะ ขอให้ PACE นำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขต่อสำนักงานภายใน 30 วันด้วย