พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานผลการหารือระหว่าง 4 สมาคมยางพารา คือ สมาคมยางพาราไทย สมาคมน้ำยางข้นไทย สมาคมผู้ผลิตถุงมือยางแห่งประเทศไทย และสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทย กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า ทั้ง 4 สมาคมต้องการให้รัฐสนับสนุนให้สวนยางพาราของเกษตรกรได้รับมาตรฐานของสภาพิทักษ์ป่า (FSC) โดยมาตรฐาน FSC เป็นมาตรฐานที่กำหนดให้พื้นที่สวนยางพาราต้องปลูกในพื้นที่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ห้ามบุกรุกป่า เพื่อความยั่งยืนของป่า
“นายกฯ อยากให้เกษตรกรชาวสวนยางรับทราบข้อมูลนี้อย่างทั่วถึง และพยายามปรับตัวตามสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยย้ำว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลส่งเสริมมาตลอด เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย จัดโซนนิ่งการเพาะปลูก ช่วยควบคุมปริมาณยางพาราให้เหมาะสม ทำให้ราคายางในตลาดเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ หากเกษตรกรหรือผู้ประกอบกิจการยางพาราต้องการส่งออกยางไปขายยังตลาดสหภาพยุโรป (อียู) หรือสหรัฐอเมริกา ก็ต้องปฏิบัติตามแนวทางนี้”
นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีสวนยางพารามากกว่า 10 ล้านไร่ แต่ได้มาตรฐาน FSC ประมาณ 50,000 ไร่ และปัจจุบันอียูก็ได้ออกประกาศว่า อีก 3 ปีข้างหน้าจะไม่รับซื้อผลิตภัณฑ์จากยางพารา เช่น เฟอร์นิเจอร์ น้ำยาง ยางแผ่น ไม้ยาง ฯลฯ ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ดังนั้น เกษตรกรและผู้ประกอบการส่วนหนึ่งจึงเริ่มให้ความสำคัญในเรื่องนี้ และขอให้ภาครัฐสนับสนุนเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยางไทยมีมาตรฐานเดียวกับคู่ค้าในอียูและสหรัฐฯ
“รัฐบาลยินดีรับฟังและสนับสนุนชาวสวนยางและผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ และขอเชิญชวนให้ชาวสวนยางทั่วไปหันมาใช้แนวทางนี้ โดยหากสวนยางพาราของไทยผ่านมาตรฐานดังกล่าว ก็จะทำให้มีโอกาสขยายตลาดไปยังประเทศอื่นที่มีศักยภาพ เพิ่มเติมจากตลาดหลักอย่างจีน และจะช่วยเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ยางที่มีมาตรฐานระดับสากลให้สูงขึ้นด้วย”