ไม่พบผลการค้นหา
“พิชัย นริพทะพันธุ์” ทวงถามนายกรัฐมนตรี ลดราคานำ้มันช่วยเหลือประชาชน ชี้ต้องแก้การผูกขาดพลังงาน แนะ กกพ. ส่งเรื่องกลับบอร์ดใหม่ ปตท. ทบทวนการซื้อโกลว์เพราะไม่โปร่งใสหลายเรื่อง

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันมีราคาเพิ่มสูงขึ้นและยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างมาก จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำเรื่องที่เคยเสนอไว้ไปพิจารณาช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เดือดร้อนไปกว่าเดิม ซึ่งเรื่องที่เสนอนั้นได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง เช่น การลดราคาค่าการตลาด ซึ่งลดได้จริงแล้วโดยบริษัทยอมลดลงจากอัตราเดิมที่เคยเก็บถึงลิตรละเกือบสองบาท ลงมาเหลือเพียงลิตรละ 1.26 บาทเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากให้มีการพิจารณาลดราคานำ้มันหน้าโรงกลั่นให้เท่ากับสิงคโปร์โดยไม่ต้องรวมค่าขนส่ง เพราะปัจจุบันโรงกลั่นกำไรจากค่าการกลั่นที่สูงอยู่แล้ว

ขณะที่ บมจ. ไทยออยล์ ในเครือ ปตท. ยังจะขยายกำลังการกลั่นเพิ่มอีกวันละ 125,000 บาเรลเพื่อการส่งออก ซึ่งขายต่ำกว่าราคาในประเทศ ดังนั้นเหตุใดคนไทยจึงต้องจ่ายสูงกว่าราคาส่งออกซึ่งไม่มีเหตุผล นอกจากจะต้องการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทน้ำมันที่กำไรมหาศาลอยู่แล้วเท่านั้น และอยากขอให้ลดราคาเอทานอลให้เท่าราคาตลาดโลก เพราะราคาน้ำตาลและราคาโมลาสได้ลดลงอย่างมากแต่ราคาเอทานอลที่ใช้ผสมน้ำมันแก๊สโซฮอลกลับยังมีราคาสูง

ทั้งนี้เชื่อว่าแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะพยายามหาว่าตนบิดเบือน แต่ลึกๆพลเอกประยุทธ์ควรจะต้องเชื่อว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง และหากราคาน้ำมันดิบยังเพิ่มสูงขึ้นไปอีก รัฐก็ควรจะลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยค่าครองชีพของประชาชน การที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง ส่วนหนึ่งก็เพราะการปล่อยให้มีการผูกขาดพลังงานมาเป็นเวลานาน จึงต้องแก้ไขเรื่องการผูกขาดนี้ และนโยบายทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่ จะต้องแก้ไขการผูกขาดทั้งหมดรวมถึง การผูกขาดด้านพลังงานนี้ อีกทั้งต้องไม่ให้ การผูกขาดน้ำมัน ลามไปยังการผูกขาดไฟฟ้าด้วย

นายพิชัย กล่าวว่า อยากให้คณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) ชุดใหม่ ได้พิจารณาส่งเรื่องการซื้อบมจ. โกลว์ของบริษัทไฟฟ้าในเครือ ปตท. กลับไปให้บอร์ดใหญ่ของ บมจ. ปตท พิจารณาใหม่ เพราะมีความผิดปกติในหลายเรื่อง เช่น มีความไม่โปร่งใสว่าจะเป็นการเซ็นทิ้งทวนของประธานบอร์ด ปตท. คนเก่าที่พึ่งออกไปหรือไม่ เพราะอนุมัติการซื้อก่อนออกจากตำแหน่งเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น และ ซีอีโอ ปตท. คนเก่า อนุมัติตอนก่อนจะครบวาระเช่นกัน อดไม่ได้ที่จะต้องคิดว่าเป็นการเซ็นทิ้งทวนหรือไม่ เพราะมักจะมีการตำหนินักการเมืองว่าชอบเซ็นทิ้งทวน ดังนั้นไม่ควรจะให้ทำในลักษณะเดียวกัน

"หากพิจารณาการขึ้นของราคาหุ้นโกลว์ ก่อนที่จะมีการตกลงซื้อขายกันปรากฏว่ามีราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่าน่าจะมีการใช้ข้อมูลภายในในการซื้อขายหุ้น ซึ่งอยากให้ ก.ล.ต.ได้เข้าตรวจสอบการใช้ข้อมูลภายในในเรื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ ราคาซื้อขายน่าจะสูงกว่าราคาที่ควรจะเป็นมาก ซึ่งน่าสงสัยว่าจะมีการรับผลประโยชน์จากการซื้อขายครั้งนี้หรือไม่ นี่คือเหตุผลของความผิดปกติและความไม่โปร่งใส" นายพิชัย กล่าว

นายพิชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาการผูกขาดในการผลิตพิ้นที่ตะวันออกโดยเฉพาะในบริเวณอีอีซี ซึ่งมีผู้ประกอบการปิโตรเคมีหลายบริษัททั้งไทยและต่างประเทศไม่สบายใจที่ บริษัทในเครือ บมจ. ปตท. ซื้อ บมจ. โกลว์ เพราะจะทำให้ บมจ. ปตท. ทราบข้อมูลการใช้ไฟฟัาและปริมาณการผลิตซึ่งเป็นความลับของบริษัทที่ไม่อยากให้ บมจ. ปตท ที่ก็ทำธุรกิจปิโตรเคมีเหมือนกันและแข่งขันกันอยู่ได้ทราบ อีกทั้ง บมจ. โกลว์ยังมีการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหินในสัดส่วนที่สูง ซึ่งสวนกับแนวทางของ บมจ. ปตท. ที่ต้องการรักษาสภาวะแวดล้อม ดังนั้นจึงน่าจะเป็นความรับผิดชอบของบอร์ดใหม่และ ซีอีโอคนใหม่ของ บมจ. ปตท. ที่จะพิจารณาความโปร่งใสในเรื่องนี้อย่างละเอียด และพร้อมตอบคำถามสังคม และ หลายหน่วยงาน แม้กระทั่ง ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ที่ยังมีข้อสงสัยในความโปร่งใสของการซื้อขายครั้งนี้