ไม่พบผลการค้นหา
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนะสาวไทยที่นิยมอัพไซส์พิจารณาหลัก 3 สม ก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อว่าราคาถูกกว่าแห่งอื่น

วันที่ 16 ม.ค. 61 นายแพทย์ธงชัย กีรหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ด้วยค่านิยมในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์เป็นอันดับหนึ่ง ทำให้ประชาชนให้ความสนใจในบริการทางการแพทย์และเสริมความงามเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในบริการที่ผู้หญิงให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆคือ การศัลยกรรมเสริมหน้าอก ทั้งเสริมเพื่อความงาม หรือตกแต่งหน้าอกภายหลังจากการผ่าตัดเต้านม

แม้การศัลยกรรมเสริมความงามจะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถศัลยกรรมเสริมหน้าอกได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย สบส. ขอแนะหลัก 3 สม ให้พิจารณาก่อนรับบริการศัลยกรรมเสริมหน้าอก หรือเสริมความงามประเภทอื่นๆ ดังนี้

1. สมวัย การรับบริการศัลยกรรมเสริมความงามทุกประเภท โดยเฉพาะเสริมหน้าอกเพื่อความงามควรทำในช่วงอายุที่เหมาะสม ร่างกายเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ ไม่ควรทำในช่วงที่เป็นวัยรุ่น เนื่องจากขนาดหน้าอกของผู้หญิงสามารถเพิ่มขึ้นได้จนถึงอายุประมาณ 20-22 ปี รวมทั้งผู้ที่มีอาการติดเชื้อ ผู้ป่วยมะเร็งหรือเคยมีประวัติป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างการให้นมบุตรไม่ควรศัลยกรรมเสริมหน้าอก เนื่องจากการเสริมหน้าออกอาจมีผลต่อการรักษาอาการติดเชื้อ และเป็นข้อคำนึงด้านความปลอดภัยของหญิงกำลังตั้งครรภ์ และให้นมบุตร

2. สมเหตุ พิจารณาอย่างถี่ถ้วนคำนึงถึงความจำเป็น และประโยชน์ที่จะได้รับก่อนการตัดสินใจบริการศัลยกรรม อย่าตัดสินรับบริการตามคำโฆษณาชวนเชื่อว่าดี ราคาถูกกว่าที่อื่น หรือทำเพราะเห็นว่าเป็นที่นิยม

3. สถานที่เหมาะสม ให้เลือกรับบริการจากสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย หากเป็นการศัลยกรรมเสริมหน้าอกจะต้องทำในห้องผ่าตัดที่ได้มาตรฐานและมีวิสัญญีแพทย์เป็นผู้ดำเนินการให้ยาระงับความรู้สึก เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการ หากรับบริการจากคลินิกเถื่อน จะมีความเสี่ยงเกิดอันตรายต่อสุขภาพ ทั้งการติดเชื้อทำให้เกิดการอักเสบ ระคายเคืองผิวหนัง และเนื้อเยื่อบริเวณเต้านมตาย เต้านมผิดรูป ผิดขนาด หรืออยู่ในระดับไม่เท่ากัน จนถึงขั้นอัตรายถึงแก่ชีวิตได้

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบหลักฐานสถานพยาบาลว่ามีการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่โดย 1.ป้ายชื่อคลินิกมีการแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก 2.มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการคลินิก โดยเลขใบอนุญาตต้องตรงกับเลขที่ที่ติดที่ป้ายชื่อคลินิก 3.มีการแสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมคลินิกเป็นปีปัจจุบัน 4.มีการแสดงหลักฐานของแพทย์ที่ให้บริการในคลินิก โดยมี ชื่อ-นามสกุล และภาพถ่ายติดที่หน้าห้องตรวจรักษา โดยสามารถตรวจสอบชื่อคลินิกได้ที่เว็บไซต์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรม สบส. (http://hss.moph.go.th/index2.php) และตรวจสอบชื่อแพทย์ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา (www.tmc.or.th) หากไม่พบรายชื่อหรือหลักฐานที่ต้องแสดงไม่ครบถ้วนไม่ควรรับบริการโดยเด็ดขาด