ไม่พบผลการค้นหา
สคบ.เตือนผู้ให้เช่าห้องพักเลี่ยงเก็บค่าน้ำ ค่าไฟผู้เช่าตามจำนวนจริง โดยให้เหตุผลว่าเป็นการเก็บค่าส่วนกลางเพิ่ม ระวังมีโทษตามกฎหมาย แนะผู้เช่าหากพบให้แจ้ง สคบ.ทันที

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แจ้งว่า จากกรณีประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่องให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2561 ที่จะมีผลในวันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป ซึ่งประกาศฉบับนี้ ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจคิดค่าบริการกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาเกินกว่าอัตราที่ผู้ให้บริการกระแสไฟฟ้าและน้ำประปาเรียกเก็บจากผู้ประกอบการธุรกิจ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจพยายามหาแนวทางเรียกเก็บเงินจากผู้เช่าในรูปแบบอื่นๆเพื่อชดเชยรายได้ที่จะหายไป โดยใช้วิธีขึ้นค่าส่วนกลางแทน

สคบ.ขอเตือนว่า ข้อสัญญาที่ผู้ประกอบการธุรกิจทำกับผู้เช่าต้องใช้ข้อสัญญาที่มีสาระสำคัญและเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด สำหรับอัตราค่าใช้จ่ายในการให้บริการ อาทิ ค่าจดปริมาตรการใช้กระแสไฟฟ้าและปริมาณการใช้น้ำประปา ค่าสูบน้ำเพื่อเพิ่มแรงดันน้ำประปาในอาคาร รวมถึงอัตราค่าใช้จ่ายอื่นๆ ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถเรียกเก็บได้เพียงเท่าที่ได้จ่ายไปจริง และมีเหตุผลอันสมควร โดยต้องแสดงวิธีการและกำหนดระยะเวลาชำระค่าใช้จ่ายในการให้บริการดังกล่าว

ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2561 เป็นต้นไป ข้อความในสัญญาเช่าอาคารที่ผู้ประกอบธุรกิจทำกับผู้เช่า หากไม่เป็นไปตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญากำหนด จะมีความผิดตามกฎหมาย

ทั้งนี้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถขอรับคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศดังกล่าวได้ที่สายด่วน สคบ.1166 และหากผู้ประกอบการธุรกิจไม่แน่ใจว่า สัญญาเช่าที่จัดทำขึ้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอความเห็นจากคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาผ่านทางสคบ.ได้

สำหรับผู้บริโภค หากเห็นว่าผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยรายใด ใช้ข้อสัญญาที่ไม่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา หรือเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคสามารถดำเนินการร้องเรียนต่อ สคบ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

การออกมาเตือนของ สคบ. มีขึ้นหลังโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความที่เจ้าของหอพักติดประกาศเพื่อแจ้งให้กับผู้เช่าทราบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2561 เป็นต้นไป จะมีการเรียกเก็บค่าส่วนกลางเพิ่ม แล้วเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ตามที่รัฐกำหนดไว้


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง