ไม่พบผลการค้นหา
นิด้าโพล เผยผลสำรวจประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.88 มองภาพรวมเศรษฐกิจช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ระบุเศรษฐกิจแย่ลง เชื่อหลังเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เข้ามาบริหารสามารถฟื้นเศรษฐกิจได้ ด้านสวนดุสิตโพล ชี้ประชาชนไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้งปี 62

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง "นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทย" จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง จากทุกภมูิภาค เกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจไทย

จากการสำรวจเมื่อถามถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วง ครึ่งปีที่ผ่านมา(มกราคม – มิถุนายน2561)พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.88ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจแย่ลงเพราะ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายและราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นรองลงมา ร้อยละ 30.24 ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจเท่าเดิม เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเลยและร้อยละ 14.88 ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น เพราะมีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่บางส่วนระบุว่าราคาพืชผลทางการเกษตรมีการขยับตัวสูงขึ้น

สำหรับความเชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาลและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 56.64 ระบุว่าไม่มีความเชื่อมั่นเพราะนโยบายและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่ได้ช่วยประชาชนทุกระดับอย่างแท้จริงเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ตรงจุด ขณะที่บางส่วนระบุว่าเป็นโครงการที่ไม่ต่อเนื่องและเป็นโครงการระยะสั้น รองลงมา ร้อยละ 38.32 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นเพราะ นโยบายและโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีความน่าเชื่อถือเป็นโครงการที่ดีทำให้หลาย ๆอย่างดีขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่ามีผู้นำที่ดีและมีความเข้มแข็ง และร้อยละ 5.04 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับเมื่อมีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลชุดใหม่ จะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.64 ระบุว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นต่างชาติจะเข้ามาลงทุนมากขึ้นเนื่องจากมีความมั่นใจต่อรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่น่าจะมีแนวทางในการบริหารและพัฒนาประเทศได้ดีกว่ารองลงมาร้อยละ 22.40 ระบุว่าเศรษฐกิจของไทยจะเหมือนเดิม เพราะปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาที่แก้ยาก ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาและต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ อย่างร่วมด้วย ขณะที่บางส่วนระบุว่าไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็เหมือนเดิม ร้อยละ 2.00 ระบุว่าเศรษฐกิจไทยจะแย่ลง เพราะเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก และจะไม่มีความต่อเนื่องในการดำเนินการแก้ไขปัญหา และร้อยละ 14.96 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

'สวนดุสิตโพล' หนุนเลือกตั้งปี 62 ฟื้นเศรษฐกิจ

"สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,136 คน จากที่รัฐบาลได้มีการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และพรรคการเมือง เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยมีการวางกรอบเวลาการเลือกตั้งในช่วง 24 ก.พ. - 5 พ.ค. 62 ส่งผลให้การกำหนดวันเลือกตั้งในปี 2562 

จากผลสำรวจกรณีประชาชนคิดอย่างไรกับกระแสข่าวการกำหนดวันเลือกตั้งในปี 2562 (วันที่ 24 ก.พ.-5 พ.ค.62) พบว่าร้อยละ 54.17 ระบุเห็นด้วย เป็นข่าวดี อยากให้มีการเลือกตั้ง รองลงมาร้อยละ27.08 ระบุเป็นเพียงการคาดคะเน ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ยังไม่แน่ใจ และร้อยละ24.03 คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริง เพราะรัฐบาลเป็นผู้ให้ข่าว 

เมื่อถามถึงประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2562 มากน้อยเพียงใด ร้อยละ36.88 ระบุไม่ค่อยเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้ง เพราะ บ้านเมืองยังมีปัญหา ยังมีความวุ่นวาย มีข้อมูลหลายกระแส ยังไม่แน่ใจ ยังไม่รู้ข้อมูลข้อเท็จจริง รองลงมา25.09 ระบุค่อนข้างเชื่อมั่นว่าจะมีเลือกตั้งเพราะ หลายฝ่ายกดดัน กระแสสังคมอยากให้มีการเลือกตั้ง มีกระแสข่าวกำหนดวันเลือกตั้งออกมาอย่างต่อเนื่อง และร้อยละ 20.86 ระบุไม่เชื่อมั่นเลย เพราะ ที่ผ่านมามีการกำหนดวันและมีการเลื่อน รัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจ สถานการณ์บ้านเมืองไม่แน่นอน ต้องรอประกาศที่ชัดเจนจาก กกต. 

ท้ายที่สุดเมื่อถามว่า "ผลดี" ที่จะมีการเลือกตั้งในปี 2562 ร้อยละ 43.15 ระบุเป็นประชาธิปไตย ประชาชนได้ใช้สิทธิ มีส่วนร่วมทางการเมือง รองลงมาร้อยละ37.23 ระบุต่างชาติเชื่อมั่น มีการค้าการลงทุน เศรษฐกิจดีขึ้น

ขณะที่ "ผลเสีย" ถ้าไม่มีการเลือกตั้งในปี 2562 ร้อยละ 51.52 ระบุเศรษฐกิจแย่ลงกว่าเดิม ต่างชาติไม่เชื่อมั่น ไม่มาลงทุน รองลงมาร้อยละ29.41 ระบุเกิดการชุมนุม เคลื่อนไหว บ้านเมืองไม่สงบ และร้อยละ19.07 ระบุประชาชนไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อมั่น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล