ไม่พบผลการค้นหา
มติอัยการสูงสุด รื้อ 2 คดี แปลงสัมปทานโทรคมนาคม-ทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย พร้อมยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งจำหน่ายทั้ง 2 คดี และขอให้ศาลมีคำสั่งดำเนินกระบวนพิจารณาสำนวนต่อไป

นายวันชาติ สันติกุญชร โฆษกอัยการสูงสุด ระบุ คณะทำงานของอัยการสูงสุด มีมติรื้อคดีของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 คดี คือ ทุจริตออกกฎหมายแปลงสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต และคดีร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร ซึ่งทั้งสองคดีศาลได้สั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากจำเลยหลบหนี โดยคณะทำงานได้มีความเห็นเสนอต่อ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ อัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดได้เห็นพ้องกับคณะทำงาน ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวทั้งสองสำนวนดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งดำเนินกระบวนพิจารณาคดีทั้งสองสำนวนต่อไป โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย ซึ่งวันนี้สำนักงานคดีพิเศษได้ยื่นคำร้องแล้ว หลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร

ส่วนการติดตามตัว ดร.ทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีที่ศาลพิพากษาแล้วนั้น ยังไม่มีข้อมูลระบุว่าอยู่ที่ใด ทั้งนี้หลังจากอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีลับหลัง ดร.ทักษิณสามารถแต่งตั้งทนายเข้ามาร่วมการพิจารณาในครั้งนี้ได้ ส่วนเรื่องพยานหลักฐานที่จะไต่สวนนั้นเป็นเรื่องในสำนวนคดี พร้อมย้ำว่าการดำเนินการครั้งนี้ ไม่ได้พุ่งเป้าเฉพาะเจาะจงกับดร.ทักษิณเท่านั้น ส่วนประเด็นในเรื่องอายุความทางคดีเป็นประเด็นที่ศาลจะพิจารณาต่อไป