นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า การดูดนักการเมือง ไม่มีใครทราบล่วงหน้า เพราะจะทราบก็ตอนที่มายื่นใบลาออกแล้ว อย่างสัปดาห์ก่อน มีอดีต ส.ก. 3 คน มายื่นใบลาออก ซึ่งน่าจะไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ ทั้งนี้ ยอมรับว่า การสูญเสียบุคลากร กระทบกับการทำงานของทุกองค์กร ขึ้นอยู่กับว่าจะปรับตัวได้เร็วแค่ไหน ส่วนจะมีผู้สมัคร ส.ก. มาแทนที่คนลาออกหรือไม่ ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ เนื่องจากพื้นที่ กทม. มีคนที่มีความรู้ความสามารถอยากเข้ามาทำงานการเมืองเยอะมาก
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากระแสดูดนักการเมือง จะมีจนถึงวันสุดท้าย เพราะล่าสุดผู้สมัครแถวสองของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งบ่มเพาะกันมากว่า 2 ปีเศษ เพื่อลงไปสู้ในเขตที่พรรคยังไม่ชนะ ก็ปรากฎว่า เปลี่ยนใจย้ายไปพรรคอื่นหลาย 10 คน
พร้อมยอมรับว่า พลังดูดครั้งนี้รุนแรงมาก แต่เป็นเรื่องปกติทางการเมือง เพราะเกิดขึ้นมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ เปรียบเทียบว่า พรรคฯ มีตะแกรงร่อนไป ใครทนอยู่ได้ก็ทนอยู่ไป ถือเป็นการคัดคน ทดสอบความเป็นนักการเมืองอาชีพ
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า มีโอกาสร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาล หากยกเลิกการบริหารงานแบบรวมศูนย์อำนาจ นายจุติ ระบุว่า ยังไม่ได้หารือกันในเรื่องนี้ ต้องรอประกาศผลการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจะมาดีเบตกันภายในพรรค เพื่อดูสมการคณิตศาสตร์ทางการเมืองว่า พรรคฯ สามารถทำอะไรให้กับประชาชนได้บ้าง โดยจุดยืนคือ “ไม่ร่วมรัฐบาลเพื่อมีตำแหน่ง แต่จะร่วมรัฐบาลเพื่อทำงาน” พร้อมยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวของตัวเองมากว่า 72 ปี ไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ให้กับใคร
เมื่อถามถึงกรณีที่ พรรคอนาคตใหม่ ถูกสั่งห้ามรับบริจาคเงินนั้น นายจุติ กล่าวว่า เห็นด้วยกับหลักการเรื่องเงินบริจาคของพรรคอนาคตใหม่ เพราะจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วม จึงมองว่า กฎหมายในปัจจุบันควรคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยด้วย พร้อมแสดงความเห็นใจพรรคอนาคตใหม่ ขอให้อดทนรออีกหน่อย แต่เชื่อว่า 'นายธนาธร' หัวหน้าพรรคฯ มีฐานะทางการเงินดีมาก จึงไม่น่าจะมีปัญหา ในการนำเงินมาบริหารจัดการพรรค
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ;