นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง นับเป็นการเลือกตั้งครั้งหนึ่งที่มีเรื่องราวซึ่งต้องบันทึกในประวัติศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อสังคมไทยเราได้เดินทางมาถึงวันนี้ สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนภายหลังจากการบริหารงานของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารถึง 5 ปี คือ ภาวะความเสื่อมทรุดทางเศรษฐกิจ รวยกระจุกจนกระจาย เสรีภาพทางความคิดที่ถูกจำกัด มองไม่เห็นอนาคตของประเทศ และชีวิตตน

การเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ว่าจะมีกฎกติกาหลายอย่างที่ถูกสร้างขึ้น ให้กลายเป็น“รัฐธรรมนูญนี้สร้างขึ้นเพื่อพวกเรา” พร้อมมี สว. 250 คนที่เริ่มต้นสรรหากันแบบขมุกขมัวเหมือนชงเองกินเอง เพื่อใช้เป็นกลไกสนับสนุนเอื้อประโยชน์ต่อการสืบทอดอำนาจของกลุ่มที่เคยทำการรัฐประหารอย่างชัดเจน เป็นกติกาที่เอาเปรียบกันแบบสุดจะบรรยายหาไม่เจอในที่ใดๆ ในโลกนี้ โดยเหตุดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่พี่น้องประชาชนจะต้องตัดสินใจเลือกเพื่อให้ผลการเลือกตั้งมีลักษณะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดชัดเจน ไม่ต้องสงสัยและเปิดช่องให้เกิดปาฏิหาริย์ใดๆ ขึ้นอีก เลือกตั้งเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและไม่ต้องทิ้งภาระใว้ให้สังคมไทย

การตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในวันที่ 24 มี.ค. จึงเป็นการตัดสินใจเลือกที่สำคัญ ถ้าพี่น้องประชาชนตัดสินใจเลือกคนเดิมๆ ทีมเดิมๆ แม้จะชุบตัวจากการรัฐประหารมาอยู่ในพรรคการเมืองแบบกระมิดกระเมี้ยนและยังต้องรอการตีความหาข้อยุติในทางกฎหมาย เพื่อบรรลุความต้องการในการสืบทอดอำนาจ ก็คงจะยังคงจมอยู่กับสภาพชีวิตแบบเดิมๆที่เคยเผชิญมาตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ได้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะย่ำแย่ถดถอยลงไปอีก จนมองไม่เห็นอนาคต

หรือจะตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่เบื้องหน้าประกาศชัดเจนแข็งกร้าวว่าไม่เกรงใจต่อการสืบทอดอำนาจ ทว่าเบื้องหลังที่ซ่อนเร้นคือการสร้างกระแสตามสไตล์ที่ถนัด ด้วยความหวังลึก ๆ ว่าจะได้คะแนนเสียงขึ้นมาเพื่อการต่อรองอำนาจเป็นทางเลือกให้หัวหน้าพรรคคนเดิมที่เคยจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะได้รัฐบาลที่มีแต่คำพูดสวยหรูดูดี ทว่าไม่สามารถบริหารงานให้สำเร็จเป็นรูปธรรมได้

หรือจะเลือกพรรคการเมืองที่มีความพร้อมทั้งศักยภาพในการบริหารจัดการ และพร้อมประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในการอาสาเข้ามาทำงานในฐานะรัฐบาลด้วยทีมที่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศ และแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนให้เห็นผลงานที่เป็นจริงมากกว่าที่พูด

วันนี้ประเทศไทยต้องการรัฐบาลที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาให้ประเทศและประชาชนมากกว่าการสร้างวาทกรรมคำพูดที่สวยหรูเต็มไปด้วยวาระซ่อนเร้น

“หยุดการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตและเอาเปรียบผู้อื่น”

“หยุดการใช้วาทกรรมที่สวยหรูแต่ซ่อนเร้นเพื่อต่อรองอำนาจ”

“หยุดกระบวนการสืบทอดอำนาจ”

พรรคเพื่อไทยขออาสาเข้ามาเป็นคำตอบให้พี่น้องประชาชนเพื่อจะนำความเปลี่ยนแปลงสู่ชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม