วันที่ 15 ส.ค. 2565 ภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai โดยระบุว่า พรรคฝ่ายค้านไม่โหวตกฎหมายเผด็จการ (ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 500) ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ขัดรัฐธรรมนูญ ขัดหลักการตามกติกาแล้วไง ในเมื่อกฎหมายเลือกตั้ง บัตร 2 ใบหาร 500 ผิดรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนเจตนารมณ์ของประชาชน การที่ร่างกฎหมายฉบับนี้ตราขึ้นไม่ทันระยะเวลา180 วันในครั้งนี้ เพราะรัฐสภาไม่จัดการให้เสร็จ ใน 180 วัน สะท้อนและบอกอะไรกับสังคมไทย และการที่พรรคเพื่อไทยไม่เข้าร่วมประชุมทำให้มีความเห็นจำนวนหนึ่งที่ตั้งคำถามต่อท่าทีของพรรคเพื่อไทย นั้น
ภูมิธรรม ระบุว่า ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า 1) ฝ่ายค้านยุคนี้ ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ดี ไม่ยอมเล่นตามเกมการขับเคลื่อนของกลุ่มผู้มีอำนาจ การไม่โหวตกฎหมายที่เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ ถูกสั่งมาอย่างมีเบื้องหลังเพื่อรักษาอำนาจตนเอง เป็นอีกท่าทีหนึ่งที่ยังดำเนินการตามกติกา การแหวกวงล้อมครั้งนี้…ถือว่าเราตั้งใจทำสิ่งที่ดี เราชั่งน้ำหนักการขยับตัวในทางออกนี้ ว่าได้ช่วยให้สังคมไทยสามารถขับเคลื่อนต่อไป เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และไม่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการที่แอบแฝงใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้าง
และที่สำคัญการกระทำที่เกิดขึ้นของฝ่ายค้านในครั้งนี้ ก็สามารถกระทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ที่เปิดช่องให้แสดงออกได้ โดยกลับไปใช้ร่างหลักที่เสนอต่อรัฐสภาในวาระสอง ซึ่งถือเป็นร่างที่ดีกว่า ถูกต้องกว่าและมีความเป็นประชาธิปไตย ตรงตามรัฐธรรมนูญ มากขึ้นกว่าเดิมโดยมิได้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากขึ้นแต่อย่างใด
2) ชัดเจนว่า กลุ่มผู้มีอำนาจและนายกรัฐมนตรี ใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองเพื่อประโยชน์ต่อพรรคพวกตน หลอกกลุ่มพรรคเล็ก ในสภาฯให้ร่วมกันโหวตสนับสนุนผ่านมติไม่ไว้วางใจต่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล ด้วยต้นทุนหรือค่ากล้วยราคาถูก
ภูมิธรรม ระบุอีกว่า การใช้เล่ห์เหลี่ยมของรัฐบาล ยิ่งเปิดเผยถึงความเจ้าเล่ห์ กระทำการเพื่อประโยชน์ของพวกตนและกลุ่มชนชั้นนำโดยไม่สนใจหลักการและความถูกต้อง มองเห็นสภาฯ เป็นเครื่องมือสำหรับเกมการเมือง นึกอยากจะใช้วิธีหาร 500 ชนิดขัดหลักการทั้งสี่ร่างเพื่อหลอกให้พรรคเล็กตายใจ แม้เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญก็ไม่สนใจ และยังผลักดัน ให้เกิดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงผิดถูกและไม่รู้สึกละอายใจกับการพลิกลิ้นเพียงเพื่อประโยชน์ของตน ไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนแม้แต่น้อย
ครั้นพอผลการโหวตลงมติไม่ไว้วางใจของพรรคเล็กผ่านความประสงค์เรียบร้อย เมื่อย้อนมาฟังคำตำหนิถึงการกระทำที่ฝ่ายตนจะถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดรัฐธรรมนูญ หากมีผู้ฟ้องร้อง ก็หันกลับมาปรับมติเสียใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการทางการเมืองของพวกตน บรรลุประโยชน์ของการประหยัด “ค่ากล้วย” ได้เรียบร้อยแล้ว
3)กลุ่ม ส.ว.และสมาชิกสภาฯ ฝ่ายรัฐบาลก็ทำตนเสมือน “หุ่นยนต์ตามสั่ง” ที่ถูกกดปุ่มให้เป็นไปตามความต้องการของกลุ่มผู้มีอำนาจในรัฐบาลอย่างชัดเจน
การเป็น “หุ่นยนต์” ที่ฝ่ายรัฐบาลคอยเติมน้ำมันหล่อลื่นให้ เท่ากับหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีตนเอง ในเมื่อยอมรับการถูกชี้ตัวให้เข้ามาโดยไร้อุดมการณ์ มีแต่ผลประโยชน์จากการทำตามคำสั่ง ก็ยิ่งพากันลากดึงให้ตกต่ำ กลายเป็นกลุ่มที่ “ทำตามคำสั่ง อายไม่เป็น” ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดในสายตาของประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง
การขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมฝ่านค้านครั้งนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองสำคัญ ที่ยังคงอยู่บนฐานคิดของการก่อประโยชน์ต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยโดยรวมได้รับโอกาสทำงานการเมืองที่สะท้อนความต้องการทางการเมืองของฝ่ายประชาชนได้มากขึ้น
“เราทำตามกติกาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ สภาล่ม ครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะก่อประโยชน์ยิ่งต่อการเมืองไทยในวันหน้า ในขณะที่อีกฝ่าย กระทำการทุกอย่างโดยไม่เคยสนใจกฎกติกาไม่แคร์ประชาชน แล้วยังจะปล่อยไปได้อย่างไร”