ไม่พบผลการค้นหา
"จิรายุ ห่วงทรัพย์" พร้อม ส.ส.เพื่อไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุลอบทำร้าย"จ่านิว" ประณามคนร้าย-ผู้บงการ เร่ง กทม. มอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้ตำรวจ เตรียมตั้งกระทู้สดถาม "พล.อ.ประยุทธ์"สัปดาห์หน้า

ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ นายการุณ โหสกุล ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุลอบทำร้ายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง บริเวณปากซอยรามอินทรา 109 โดยมีประชาชนชาวคลองสามวาให้ความสนใจมาจากตามการลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

นายจิรายุ ในฐานะส.ส. เจ้าของพื้นที่ กล่าวว่า นายสิรวิชญ์ถือเป็นลูกบ้านอยู่ในเขตคลองสามวา ใช้ชีวิตปกติเช่นนี้มายาวนาน ในพื้นที่ไม่เคยเกิดเหตุเช่นนี้มาก่อน เป็นที่น่าสังเกตว่าจากจุดบริเวณบ้านของนายสิรวิชญ์มาจนถึงปากซอย มีกล้อง CCTV ของกรุงเทพฯไม่น้อยกว่า 12 ตัว หนึ่งจุดมีอย่างน้อย 2 ตัว หันทางทิศเหนือทิศใต้ขนานไปกับถนน หากติดตามนายสิรวิชญ์มาตั้งแต่ในซอย สามารถดูจากกล้องวงจรปิดได้จนมาถึงจุดที่เกิดเหตุ จึงเรียกร้องให้ตำรวจขอภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งหวังว่าไม่ใช่กล้องที่เสีย หรือเสียพร้อมกันทั้ง 20 ตัวคงเป็นไปไม่ได้ จึงขอให้ กทม.จัดส่งภาพให้ตำรวจ ล่าสุดพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับกองบังคับการตำรวจนครบาล 3 และ สน. มีนบุรี ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

นายจิรายุ กล่าวว่า วันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ส.ส.เพื่อไทย จะยื่นกระทู้ถามสด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้ เพราะประชาชนเกิดความหวาดระแวงกับการดำรงชีวิตกลางกรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุลอบทำร้ายกลางวันแสกๆ จึงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์มาตอบในที่ประชุมสภาฯ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศเกิดความมั่นใจ หากรัฐบาลไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ถือว่าประเทศไทยนี้จะอยู่ยาก นอกจากนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันบริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท พร้อมกับประชาชนชาวคลองสามวา-มีนบุรี อีก 50,000 บาท รวมทั้งสิ้น 200,000 บาท จึงขอเป็นตัวแทนนำเงินไปมอบให้กับมารดาของนายสิรวิชญ์ที่โรงพยาบาลมิชชั่น

นายจิรายุ ยังประณามพฤติกรรมของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ออกมาโพสต์ผ่านโลกโซเชียลมีเดียแสดงความสะใจ และสมน้ำหน้านายสิรวิชญ์ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง ซึ่งแค่เพียงผู้ใหญ่ในรัฐบาลและในคณะรัฐมนตรีไม่ได้ให้ความเหลียวแลแล้ว ยังมี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลออกมาซ้ำเติม เปรียบประหนึ่งว่านายสิรวิชญ์ไม่ใช่คนไทย ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้องสอน ส.ส.คนใดที่โพสต์อยู่ในขณะนี้ขอให้ลบโพสต์ดังกล่าว แม้นายสิรวิชญ์จะอยู่ตรงข้ามทางการเมืองกับรัฐบาล แต่ต้องให้ความเห็นใจในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่ง

"วันนี้ที่ทุกคนมองว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่ขณะที่บางคนมองว่าอาจเป็นเรื่องส่วนตัวนั้น ขอเรียกร้องให้รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในรัฐบาลไม่ควรวางเฉย หากสามารถจับกุม 4 คนที่ทำร้ายนายสิรวิชญ์ได้ จะทำให้รู้ว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ เพราะก่อนเกิดเหตุ 1 วัน มีข่าวในโลกโซเชียลว่านายสิรวิชญ์ได้ไปบรรยายเรื่องประชาธิปไตยที่เขตหนองจอก ซึ่งมีบางคนนำไปโพสต์ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุลอบทำร้ายเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะการโพสต์แสดงความสะใจจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐบางคน รัฐบาลจึงควรทำเรื่องนี้ให้เป็นที่ปรากฏ" นายจิรายุ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า การลอบทำร้ายครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจเป็นอย่างยิ่ง พรรคเพื่อไทยขอพระนามโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่เบื้องหลังและองค์การในเรื่องนี้เพราะการกระทำลักษณะนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ต่ำทรามเป็นอย่างมาก การแสดงออกซึ่งเกิดจากความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองในปัจจุบัน เป็นการแสดงออกที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรง จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้บงการจึงใช้ความรุนแรงจนถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งอาจเป็นเหตุจุดชนวนเกิดความไม่เข้าใจและแตกแยกในสังคม จึงขอประนามผู้บงการและไม่ควรสั่งการให้ดำเนินการในลักษณะนี้ และควรยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ

"สวัสดิภาพในชีวิตและทรัพย์สินเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและทุกคนที่มีอำนาจที่จะต้องดูแลในเรื่องนี้ซึ่งไม่เพียงเฉพาะการดูแลคนที่ออกมาเคลื่อนไหวและคนที่มีความเห็นต่างแต่รัฐบาลจะต้องดูแลความปลอดภัยของประชาชนทุกคนไม่สามารถปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้การปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ถือว่าเป็นการขาดความรับผิดชอบ" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วุฒิภัทร เปรมปรี ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี ได้เดินทางมายังสถานที่เกิดเหตุและได้พูดคุยกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย โดย พ.ต.อ.พุฒิภัทร ยืนยันว่า จากประสบการณ์การทำหน้าที่ตำรวจมาก่อน เหตุการณ์ลักษณะนี้ที่มีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ได้จะนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้อย่างแน่นอน 

นอกจากนี้ยังมีพยานบุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ด้วย จึงขอเวลาในการติดตามสืบสวนสอบสวน และจะรายงานเรื่องนี้ไปยังผู้บังคับบัญชาที่จะกำหนดแนวทางการสืบสวนต่อไป ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถดูได้ทุกจุดหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้ ซึ่งฝ่ายสืบสวนกำลังตรวจสอบกล้องตามจุดต่างๆ อยู่ แต่ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง