ไม่พบผลการค้นหา
พิชัย นริพทะพันธุ์ ชี้ ยิ่งปกปิดทุจริตยิ่งไม่มีการลงทุน ห่วง ทุจริตงบกลางปี 150,000 ล้านบาท

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บอกว่าไม่อยากให้วิจารณ์เรื่องทุจริต คอรัปชั่น ห่วงนักลงทุนจะหนีนั้น อยากให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้อธิบายให้ พลเอกประยุทธ์ ได้ทราบความจริงเรื่องปัจจัยในการลงทุน และสาเหตุใดที่การลงทุนภาคเอกชนถึงหายไปมากตลอดเกือบ 4 ปี หลังการปฏิวัติและถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น

"ที่นายสมคิดบอกว่าการขอส่งเสริมการลงทุนเพม 224% จาก 190,000 ล้านบาท เป็น 600,000 ล้านบาทปีที่แล้วนั้น ความจริงคือ ก่อนปฏิวัติมียอดขอส่งเสริมกว่า 1.1 ล้านล้านบาทซึ่งมากกว่ามาก โดยหลังการปฏิวัติ ยอดได้ลดฮวบลงถึงกว่า 80% และการลงทุนที่แท้จริงยิ่งลดน้อยลงมาก"

นายพิชัยกล่าวต่อไปว่า ปัจจัยที่ช่วยให้ลงทุนเช่น ความสะดวกในการทำธุรกิจที่ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 26 ก็ยังต่ำกว่าก่อนปฏิวัติที่อยู่อันดับที่ 18 และ หลังปฏิวัติอันดับได้ตกลงไปอยู่ที่ 46 และ การจ่ายใต้โต๊ะของไทยติดอันดับ 3 ซึ่งแย่กว่า กัมพูชา และ เมียนมาร์ อีกทั้งอันดับความโปร่งใสอยู่ที่ 96 ซึ่งลดลงมาจากเดิมที่ 76 ซึ่งแสดงถึงการทุจริตและความไม่ไปร่งใสเพิ่มมากขึ้น

"หาก พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ให้มีการวิจารณ์การทุจริตทีเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เรื่องโกงคนจนที่พบเพิ่มเป็น 49 จังหวัดแล้ว และมีแนวโน้มที่จะพบแทบทุกจังหวัด การทุจริตในกระทรวงศึกษาที่เท่ากับเป็นการโกงอนาคตของเด็กที่พบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การทุจริตในร้านธงฟ้าประชารัฐที่ขายของเกินราคา เป็นต้น นี่ขนาดตรวจสอบไม่ได้ยังพบทุจริตมากมายขนาดนี้ หากวันใดรัฐบาลและ คสช. ออกจากอำนาจและถูกตรวจสอบ จะพบการทุจริตคอรัปชั่นมากขึ้นขนาดไหน และนี่คือเหตุผลที่ต้องเลื่อนเลือกตั้งไปเรื่อยๆใช่หรือไม่"

นายพิชัยกล่าวด้วยว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ห้ามการวิจารณ์เรื่องทุจริตก็จะย่งทำให้ทุจริตมีมากยิ่งขึ้น เพราะขนาดมีการวิจารณ์แล้วการทุจริตยังมีไปทั่ว การห้ามวิจารณ์การทุจริตคอรัปชั่นจะยิ่งทำให้ดัชนีความโปร่งใสของไทยแย่ลงไปอีก และนักลงทุนจะยิ่งไม่ลงทุนเพราะเห็นว่าตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นไม่ได้

"จึงอยากให้นายสมคิดได้อธิบายพลเอกประยุทธ์ อย่าทำให้นายกฯ เป็นตัวตลก เหมือนกับที่บอกว่าโพลความนิยมตกแปลว่ารัฐบาลทำงานดี ที่ไม่มีที่ไหนในโลกคิดกันแบบนี้ และอยากถามนายสมคิดว่าจะสร้างความมั่นใจได้อย่างไรว่างบประมาณกลางปี 150,000 ล้านบาทที่ดูเหมือนจะออกมาเพื่อช่วยหาเสียงให้พลเอกประยุทธ์และพรรคที่จะเชียร์พลเอกประยุทธ์นั้น จะไม่มีการทุจริตเหมือนโครงการอื่นๆ เพราะการทุจริตได้ระบาดไปทั่วแทบทุกโครงการของรัฐบาลแล้วคล้ายกับโรคพิษสุนัขบ้า"

นายพิชัยยังตั้งคำถามอีกว่าการทุจริตเหล่านี้เป็นส่วนที่ทำให้ชุมชนเป็นเหมือนขาโปลิโอที่นายสมคิดพูดถึงหรือไม่ เพราะรัฐบาลนี้ตั้งแต่เข้ามายังไม่เห็นมีแนวทางอะไรที่จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งเหมือนรัฐบาลที่แล้วเลย แถมยังมีแต่ข่าวการทุจริตในแทบทุกโครงการของชุมชน จะไม่ทำให้ชุมชนอ่อนแอเหมือนเป็นโปลิโอได้อย่างไร ซึ่งนโยบายที่จะทำให้ชุมชนเข้มแข็งในทุกด้านเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้

ข่าวเกี่ยวข้อง :

งบกลางปี 1.5 แสนล้าน สนช.โหวตฉลุย -อัดฉีดโครงการประชารัฐ