ในการประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนตุลาคม 2017 นายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ประกาศชัดเจนว่าต้องการให้พรรคคอมมิวนิสต์เปิดกว้างต่อการตรวจสอบมากยิ่งขึ้น และให้การปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่นยังคงเป็นวาระแห่งชาติ และปลายปีที่ผ่านมา พรรคคอมมิวนิสต์ก็ได้ออกกฎใหม่ ชื่อว่า "กฎพรรคเปิดกว้าง" ซึ่งกำหนดให้ทุกองคาพยพของพรรค ตั้งแต่คณะกรรมาธิการกลาง ไปจนถึงหน่วยย่อยทั่วประเทศ ต้องมีหน่วยป้องกันและปราบปรามการทุจริตอยู่ด้วย เพื่อเป็นผู้นำในการตรวจสอบและรณรงค์ต่อต้านการคอรัปชั่น รวมถึงเปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบต่อพรรค และในบางกรณีก็ต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนด้วย

เป็นเวลา 30 ปีมาแล้วที่พรรคคอมมิวนิสต์เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการคอรัปชั่น การสร้างความโปร่งใสตรวจสอบได้ในพรรค มีทั้งการเปิดเผยข้อมูลสำนวนคดีของศาล การเปิดเผยกิจกรรมของคณะกรรมาธิการกลางพรรคคิมมิวนิสต์ให้สาธารณชนรับทราบ ไปจนถึงการเปิดให้ประชาชนได้แสดงความเห็นในนโยบายต่างๆก่อนที่จะออกเป็นกฎหมาย และการเปิดเผยผลการตรวจสอบพฤติกรรมมิชอบของสมาชิกพรรคที่ถูกร้องเรียน แต่กฎใหม่ที่ออกมาเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จะเน้นที่การตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ และการให้ประชาชนได้รับทราบว่ามีการดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดจริง เพื่อตอบสนองต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ ถึงความประพฤติไม่เหมาะสม การทุจริต และใช้อำนาจในทางมิชอบของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์

กฎดังกล่าวถือเป็นการตอกย้ำว่าการต่อต้านการทุจริตไม่ใช่เพียงลมปาก แต่เป็นนโยบายที่รัฐบาลจีนต้องการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงตอกย้ำจุดยืนของนายสีที่ต้องการทำให้ระบอบการบริหารราชการแผ่นดินทันสมัยและเป็นสากลขึ้นผ่านหลักธรรมาภิบาล อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์วิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศ The Diplomat มองว่ากฎข้อนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่มากนัก และเป็นเพียงการเปิดเผยพฤติกรรมและนโยบายของสมาชิกระดับล่าง แม้จะครอบคลุมทั้งองค์กรบริหารงานท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร ศาล แต่ยังคงไม่สามารถเจาะเข้าไปตรวจสอบหน่วยงานระดับสูงและสมาชิกระดับสูงของพรรคได้ รวมถึงไม่มีช่องทางให้ประชาชนเรียกร้องขอข้อมูลที่ต้องการ มีเพียงการเปิดเผยตามที่พรรคคอมมิวนิสต์เห็นควร และการตรวจสอบกันเองภายในพรรคเท่านั้น

นอกจากนี้ กฎใหม่ดังกล่าวยังไม่ได้พูดถึงการเปิดเผยรายละเอียดการถือครองทรัพย์สินของสมาชิกระดับสูงของพรรค ซึ่งเป็นประเด็นที่ประชาชนเรียกร้องอย่างมาก โดยปัจจุบันสมาชิกระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ต้องส่งบัญชีทรัพย์สินของตนเองและครอบครัวให้คณะกรรมาธิการด้านการตรวจสอบของพรรคทุกปี แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ยกเว้นบางกรณี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกระดับกลาง ไม่ใช่บุคคลสำคัญของพรรค และไม่เคยมีการทำให้ระบบการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินเป็นข้อบังคับทางกฎหมายอย่างเป็นทางการ