ไม่พบผลการค้นหา
ปัสสาวะคนเราส่วนใหญ่มักมีสีเหลือง จะเข้มจะจางแล้วแต่การดื่มน้ำในแต่ละวันของบุคคลนั้น แต่ปัสสาวะไม่ได้มีแค่สีเหลืองเท่านั้น ยังมีอีกหลายสีที่สะท้อนสภาวะสุขภาพของแต่ละคน ลองมาเช็กกันดีกว่าว่าในวันนี้ปัสสาวะสีอะไร

ปัสสาวะ คือของเสียในรูปแบบน้ำที่ร่างกายขับถ่ายออกมา ประกอบด้วย น้ำ ไม่น้อยกว่า 95% และสารประกอบทางเคมีอื่นๆ เช่น ยูเรีย, คลอไรด์, โซเดียม, โพแทสเซียม, ครีอะตินีน, สารประกอบจำพวกธาตุเหล็ก, สารประกอบที่เป็นทั้งออร์แกนิก และไม่ใช่ออร์แกนิกอีกหลายชนิด สีของปัสสาวะของคนส่วนใหญ่คือ "เหลือง" ซึ่งสิ่งที่ทำให้ปัสสาวะคนเรามีสีดังกล่าวเป็นผลมาจาก "ยูโรบิลิน" (Urobilin) สารชีวเคมีที่ไร้ประโยชน์เกิดจากเม็ดเลือดแดงที่ถูกทำลายตามอายุขัย 120 วัน ถูกขับออกจากร่างกาย

ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับสีของปัสสาวะคนเราได้จำแนกสีของปัสสาวะออกมาได้ราว 7 สี เพื่อให้ทุกคนนำไปเป็นไกด์ในการตรวจสุขภาพตัวเองเบื้องต้น เพื่อสังเกตความเปลี่ยนแปลงไปของร่างกาย จะได้มีสุขภาพที่ดีตลอดปีและตลอดไป

1. สีจาง 

เกิดจากร่างกายดื่มน้ำมากเกินไป และอาจทำให้เกิดความเสี่ยงกับร่างกายได้ เพราะการดื่มน้ำมากอาจเข้าไปละลายเกลือที่สำคัญในร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติคือ สารเคมีในร่างกายไม่สมดุล ข้อเสนอแนะคือ ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว

2. สีเหลือง, เหลืองอ่อน, เหลืองจางๆ

สามสีที่กล่าวมาข้างต้น บ่งบอกว่าร่างกายของผู้นั้นมีสุขภาพดี รักษาระดับนี้ไว้ เพราะหมายความว่าในแต่ละวันคุณได้รับน้ำอย่างเพียงพอแล้ว

3. สีส้ม

ปัสสาวะสีนี้อาจเกิดจากร่างกายได้รับวิตามินบางชนิด เช่น วิตามิน บี 2 , หรือเบตา แคโรทีน ที่พบพืชผักสีส้มอย่าง แครอท และมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากกินยาบางชนิดเช่น ยาระบาย หรือได้รับการรักษาด้วยคีโม ปัสสาวะสามารถเป็นสีส้มได้ ทางแก้ง่ายๆ คือดื่มน้ำให้มากขึ้น เมื่อร่างกายได้รับน้ำเข้าไปแล้วรอ 2-3 ชม. ถ้าปัสสาวะใหม่อีกครั้งสีจะกลับมาเป็นปกติ แต่ถ้าหากไม่หายมีความเป็นไปได้ว่าคุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับตับ ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

4. สีชมพู หรือ แดงระเรื่อ

ปัสสาวะสีนี้เกิดได้ 3 กรณี คือ 1. จากอาหารที่กินเข้าไปเช่น บีทรูท, แบล็คเบอร์รี่, และรูบาร์บ ข้อนี้ไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก แค่ส่วนประกอบในอาหารที่กล่าวมาข้างต้นทำให้สีของปัสสาวะออกมาเป็นสีแดงระเรื่อตามเท่านั้น ถ้านอกเหนือจากนั้ควรพบแพทย์ 2. จากยาปฏิชีวนะบางตัวที่ใช้รักษาวัณโรค อาจทำให้ปัสสาวะมีสีดังกล่าวได้ และ 3.อาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ, ไตอักเสบ, มีเนื้องอกชนิดร้ายแรงกับไม่ร้ายแรงเกิดขึ้นในร่างกาย หรือเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือไตได้ ถ้าพบว่าในปัสสาวะมีลิ่มเลือดหรือเนื้อเยื่อลอยอยู่ควรพบแพทย์ทันที แต่ในผู้หญิงบางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติเมื่อเกิดขึ้นในช่วงของการมีรอบเดือน

5. สีเขียวหรือฟ้า

ถ้าเห็นปัสสาวะสีนี้อาจทำให้หลายคนตกใจได้ เพราะพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก แต่เกิดได้ในหลายสาเหตุ เช่น อาหารจากพืชสีเขียวอย่างต้นหน่อไม้ฝรั่ง ไม่ต้องกังวลไป ปัสสาวะจะกลับสู่ปกติใน 1-2 วัน, จากยารักษาโรค เช่น อินโดเมธาซิน , และโปรโพฟอล มีผลทำให้สีของปัสสาวะเปลี่ยนได้, อย่างสุดท้ายถ้าไม่ได้เกิดจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นควรพบแพทย์จะดีที่สุด ปัสสาวะสีเขียว มีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะจากแบคทีเรียชื่อ "ซูโดโมแนส" แต่โอกาสเกิดพบน้อยมาก

6. สีน้ำตาล หรือดำ

ปัสสาวะสีนี้อาจเป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายกำลังขาดน้ำ หรืออาจเกิดจากอาหาร เช่น รูบาร์บ และถั่วปากอ้าได้ แต่เพื่อให้ดีเดินทางไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาจะดีกว่า ถ้าแก้ปัญหาด้วยการดื่มน้ำมากๆแล้วแต่สีของปัสสาวะยังไม่เปลี่ยน สีน้ำตาลอาจเกิดจากตับหรือไตมีปัญหาได้ ยิ่งถ้าคุณมีอาการปวดท้อง, ผื่นขึ้น หรือชักร่วมด้วย มีความเป็นไปได้สูงที่อาจเกิดกับปัญหาด้านพันธุกรรม นอกจากนี้เลือดที่ออกมาพร้อมปัสสาวะที่เป็นสีน้ำตาล นั่นอาจเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้

7. สีขาวคล้ายน้ำนม

อาจเกิดจากปริมาณแร่ธาตุอย่างแคลเซียม หรือฟอสฟอรัสในปัสสาวะมากเกินไป หรือมาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวปนออกมาด้วยเพราะเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทางที่ดีควรพบแพทย์อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน


ข้อมูลจาก :