นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ตรวจสอบการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า มีการเบิกจ่ายซ้ำซ้อน มีการเบิกจ่ายโดยไม่ตรงกับยอดใบประทวน หรือมีการเบิกจ่ายที่ส่อไปในทางไม่สุจริต อันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ หรือไม่
สืบเนื่องจากการพบข้อมูลของพนักงาน ธ.ก.ส. รายหนึ่ง ที่เปิดเผยถึงการจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าวส่อว่าผิดปกติ เช่น กรณีลูกค้า ได้เงินในโครงการรับจำนำข้าวมูลค่าเท่ากัน 2 สัญญา และหลังจาก ธ.ก.ส.โอนเงินให้ชาวนาแล้ว ปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการถอนเงินเพียงบัญชีเดียว และยังตรวจสอบพบว่า ลูกค้ามีหลักประกันเพียงบัญชีเดียว
จากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า เกษตกรมีใบประทวนเท่ากัน 2 ใบ ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยจึงเกรงว่าอาจเกิดข้อผิดพลาด เช่น เกิดจากการคีย์หลักประกันผิด หรือ ลูกค้าอาจมี 2 ใบประทวนจริง แต่มูลค่าของใบใดใบหนึ่งอาจเป็นมูลค่าอื่น หรืออาจเกิดจากเหตุอื่น จึงร้องขอให้มีการตรวจสอบใบประทวนฉบับจริงและตรวจสอบเอกสารสัญญาจากสาขา
นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการเรียกเงินคืนจากเกษตรกร โดยอ้างว่ายอดเงินตามใบประทวนไม่ถูกต้อง แต่กลับ ไม่เรียกคืนทั้งยอด ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า สรุปแล้วลูกค้ามีใบประทวนกี่ใบ แต่ละใบมีมูลค่าเท่าใด เพราะตามบันทึกของสาขาไม่สัมพันธ์กับยอดเงิน และเหตุผลขัดแย้งกัน จึงร้องขอให้ตรวจสอบใบประทวนฉบับจริงและเอกสารสัญญาจากสาขา
นายเรืองไกร ระบุเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าการจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น และสูงกว่ายอดจริง ซึ่งเงินดังกล่าวที่ ธ.ก.ส. จ่ายไปคือเงินของแผ่นดิน จึงต้องมีผู้รับผิดชอบทั้งทางแพ่งและทางอาญา จึงจำเป็นต้องตรวจสอบยันยอดระหว่าง ธ.ก.ส. กับ อ.ต.ก. และ อคส. ให้ครบถ้วนทุกรายการ
อ่านเพิ่มเติม