ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ ยืนยันเศรษฐกิจในประเทศมีความเชื่อมั่นสูงใน 4 ปี โต้นักการเมืองใช้วาทกรรมดูด ส.ส. ไร้สาระ แนะพรรคการเมืองใช้เวลาคัดสรรคนดี เตรียมพร้อมเลือกตั้ง ยันไม่เคยพูดจะไปตั้งพรรคการเมือง

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว่า สถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้กำลังอยู่ในระดับที่ดี เพราะระดับความความเชื่อมั่นสูงสุดในรอบ 4 ปี แต่เศรษฐกิจของไทยสามารถทำให้ดีได้มากกว่านี้ หากสามารถทำทุกอย่างเป็นไปตามแผน สิ่งสำคัญคือการปฎิรูปประเทศ ทั้งโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การพัฒนาดิจิทัล และระบบฐานข้อมูลกลาง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่การเมืองต้องให้ความสำคัญเพราะตัวขับเคลื่อนหลักประเทศคือ พรรคการเมือง หากพรรคการเมืองใช้เวลาไปกำหนดนโยบายที่ดี และเฟ้าหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีในการบริหารประเทศต่อไป 

"แต่หากการเมืองคิดแต่เรื่องการเมือง หรือ โจมตีอีกฝ่าย ด่าคนโน้น คนนี้ ถือว่าไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ขณะที่ประชาชนก็จะเกิดความเบื่อหน่าย เหมือนกับนายกรัฐมนตรี ที่เคยกล่าวว่า ไม่ได้ดูดนักการเมือง แต่ทั้งนี้ หากมีคนย้ายบ้าน แสดงว่า บ้านที่อยู่แล้วไม่มีความสุขหรือไม่ ดังนั้น แต่ละคนต้องพัฒนาบ้าน เพื่อเป็นบ้านที่ให้คนไทยฝากความหวังไว้ได้" นายสมคิด ระบุ

ชี้ไร้สาระงัดวาทกรรมดูด ส.ส.

รองนายกฯ ยังแนะนำว่า ให้พรรคการเมืองใช้เวลาในช่วงก่อนเลือกตั้ง ไปคัดสรรคนที่ดี คิดนโยบายใหม่ๆ เตรียมเอาไว้สำหรับการเลือกตั้ง และเมื่อผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล หรือได้เข้าร่วมรัฐบาล ก็สามารถทำงานเพื่อประเทศได้ ที่ต้องช่วยกันสื่อความหมายออกไป ไม่ใช่พูดแต่เรื่องการดูดตัวนักการเมือง ซึ่งไร้สาระ ผ่านมาตั้งกี่สิบปี ก็ยังอยู่เพียงแค่นี้ ส่วนที่มีนักการเมืองมีคนออกมาเปรียบว่าเป็นการดูดนักการเมือง คล้ายรถดูดส้วมนั้น ส่วนตัวรู้จักกับคนที่ออกมาพูดเป็นอย่างดี 

นายสมคิด ยังไม่ทราบว่าจะต้องมีพรรคการเมืองมาสนับสนุนให้การทำงานนายกรัฐมนตรี เดินหน้าต่อได้หรือไม่ แต่เห็นว่าจากการวิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ในอนาคต ความต่อเนื่องของการขับเคลื่อนประเทศเป็นสิ่งจำเป็น เพราะที่ผ่านมาก็ถือว่าผลงานของรัฐบาลเป็นไปได้ดี เพียงพอ แต่หากจะมีใครเข้ามาทำงานได้ดีกว่า ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ อยู่ที่ประชาชนเป็นผู้เลือก

ปัดไม่เคยบอกจะตั้งพรรคการเมือง

นายสมคิด ยังมองว่า การเมืองหลังจากนี้จะต้องมีคนรุ่นใหม่ และนักการเมืองเดิมผสมผสานกัน เพื่อมีแนวคิดเป็นตัวนำ ไม่ใช่การเมืองนำประเทศ ส่วนใครจะเป็นผู้นำนั้น เป็นสิ่งที่ตามมมา และยืนยันว่า ในช่วงนี้ไม่ได้พบปะนักการเมืองที่เคยคุ้นเคยกัน เพราะทำงานในหน้าที่ จนไม่มีเวลา พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่าจะไปตั้งพรรคการเมือง แต่เคยบอกว่า จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ทำงานต่อ หากพล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจทำงานต่อ ส่วนพรรคไหนจะทำกิจกรรมอะไร ก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องของแต่ละพรรค 

นายสมคิด ยังย้ำว่า ทุกกลุ่มการเมืองรู้จักกัน เช่นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่วนตัวรู้จักเป็นคนดี ในขณะที่พรรคเพื่อไทยก็มีคนที่ดีจำนวนมาก ดังนั้นต้องคิดว่าในอนาคตหากทำงานร่วมกันจะเป็นอย่างไร ซึ่งจำเป็นต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด โดยเอาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง แล้วทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี 

นายสมคิด ยังกล่าวติดตลก กับรายงานที่ออกมาว่ามีความเคลื่อนไหวที่บ้านริมน้ำ ของนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำอดีต ส.ส.กลุ่ม16 ว่า ไม่รู้จักบ้าน แต่รู้จักกับนายสุชาติ 

ส่วนการลงพื้นที่ ประชุม ครม. สัญจร ที่ จ.สุนินทร์ และบุรีรัมย์ ในวันที่ 7-8 พค.นี้ นายสมคิดกล่าวว่า ไปติดตามนโยบาการดำเนินแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมที่นายกรัฐมนตรี จะไปพบกับประชาชน ส่วนจะมีการต้อนรับอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อีกทั้งหากพื้นที่มีปัญหา รัฐบาลก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น และยอมรับว่า นายเนวิน ชิดชอบ อดีตนักการเมือง รู้จักกันดี ส่วนจะดูดนายเนวิน หรือไม่ นายสมคิด หัวเราะอย่างเดียว 

ส่วนจะลงพื้นที่ภาคใต้ เช่น จ.สุราษฎร์ธานี หรือไม่ นายสมคิด ยิ้ม และพูดว่า กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็มีความสนิทสนมกันดี