ไม่พบผลการค้นหา
การผ่านกฎหมาย 'เสรีกัญชา' กำลังทำให้อุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่ม อาทิ ชา กาแฟ เบียร์ และไวน์กัญชาที่เตรียมเปิดตัวในปี 2018 กลายเป็นสิ่งท้าทาย ยั่วเย้า และน่าจับตามอง

อีกเพียงไม่กี่อึดใจ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ จะเปิดศักราชใหม่ด้วยกฎหมายเสรีกัญชาแบบสันทนาการ เช่นเดียวกันรัฐโคโลราโด โอเรกอน วอชิงตัน ดี.ซี. และเนวาดา ที่ผ่านกฎหมายเดียวกันไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้คนอายุ 21 ปีขึ้นไป สามารถเสพกัญชาในพื้นที่ส่วนตัวได้สบายๆ โดยไม่ต้องพึ่งใบรับรองแพทย์ หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เดินเข้าไปซื้อกัญชามาเสพคลายเครียด เพื่อสร้างประสบการณ์การพักผ่อนหย่อนใจใหม่ๆ ได้แบบไม่น่าเชื่อ และประมาณการณ์กันว่า อุตสาหกรรมกัญชาจะขยายตัวสูงถึง 50 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2026

กฎหมายเสรีกัญชาแบบสันทนาการจะอนุญาตให้ผู้บรรลุนิติภาวะสามารถผลิต ครอบครอง จำหน่าย และเสพกัญชาได้ แต่จำกัดปริมาณการซื้ออยู่ที่ครั้งละไม่เกิน 28 กรัม และห้ามเสพตามร้านอาหาร บาร์ หรือสถานที่สาธารณะ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2018 เป็นต้นไป รัฐแคลิฟอร์เนียจะกลายเป็นอีกหนึ่ง ‘ดินแดนเสรี’ ที่เปิดไฟเขียวกับการเสพกัญชาคลายเครียด แต่อย่างไรก็ตาม กฎหมายก็มีข้อจำกัดอยู่ว่า กัญชาไม่สามารถผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในผลิตภัณฑ์เดียวกันได้ทำให้หลายคนพยายามดัดแปลงกัญชาไปเป็นส่วนผสมของอาหารหลายรูปแบบแทน เช่น ช็อคโกแลต บราวนี คุกกี้ ทาร์ต ไอศกรีม ฯลฯ แต่ดูเหมือนว่า ในปี 2018 ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแปรรูปที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสมหลัก กำลังกลายเป็นสิ่งท้าทาย ยั่วเย้า และน่าจับตามองมากที่สุด

ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ในสหรัฐฯ กำลังพัฒนาเครื่องดื่มผสมกัญชาด้วยความเชื่อที่ว่า วันหนึ่งมันจะกลายเป็นเครื่องดื่มกระแสหลัก และเป็นคู่แข่งของเบียร์

เดวิด แพเลสชัค (David Paleschuck) รองประธานฝ่ายการตลาดของบริษัทเอเวอร์กรีน เฮอบัล (Evergreen Herbal) ซึ่งผู้ผลิตเครื่องดื่มผสมกัญชาในรัฐวอชิงตันบอกว่า เขาต้องการผู้ใหญ่ทั่วอเมริกาเหนือ และคนจากรัฐอื่นๆ ที่เดินทางมาพักผ่อน สามารถสั่งซื้อเครื่องดื่มกัญชาแก้วใหญ่ๆ เย็นๆ มาดื่มแทนเบียร์ หรือบรั่นดี 

สำหรับผู้ไม่หลงใหลควัน หรือการสูบ ในปี 2018 คุณจะพบกับการนำเสนอเครื่องดื่มกัญชารูปแบบใหม่ๆ ที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ และช่วยให้ทุกคนเพลิดเพลินกับการดื่มด่ำเสรีกัญชาได้เต็มที่ โดยเฉพาะพวกคอเบียร์

ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายเจ้ากำลังทดลองนำกัญชามากลั่นเป็นเบียร์แทนการใช้ฮอปส์แล้ว และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพิ่งมีข่าวบริษัทคอนส์เทลเลชั่น (Constellation) ผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตโคโลน่า (Colona) เบียร์พรีเมียมจากเม็กซิโก เข้าซื้อหุ้นของบริษัทคาโนพี โกรท (Canopy Growth) ผู้ผลิตกัญชาสัญชาติแคนาดารายใหญ่ที่สุดในโลก มูลค่าสูงถึง 191 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,300 ล้านบาท ทำให้อนาคตนักดื่มอาจจะได้จิบเบียร์กัญชากันมากยิ่งขึ้น

ด้านผู้ผลิตซอฟท์ดริ้งก็ไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน เมื่อกฎหมายเสรีกัญชาเปิดโอกาสทางการตลาดให้แบรนด์แคนนา โคล่า (Canna Cola) ได้สร้างสรรค์น้ำอัดลมรสชาติอร่อย และกลายเป็นที่ยอมรับทางการแพทย์ มีให้เลือกทั้งรสส้ม องุ่น และกัญชา ราคาขายปลีกอยู่ที่ 10-15 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 328-490 บาท ขณะที่บริษัทโกลบล็อก ไซเอนซ์ (GrowBlox Sciences) ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ลงนามทำข้อตกลงกับบริษัทคูช คัพส์ (Kush Cups) เพื่อทำการผลิต และจัดจำหน่ายกาแฟ และชาสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของกัญชาแล้ว

sns-dailymeal-1862754-rebel-coast-winery-marijuana-wine-121417-20171213.jpg

นอกจากนั้น ความน่าตื่นเต้นของการเฉลิมฉลองปีใหม่ในรัฐแคลิฟอร์เนียยังหนีไม่พ้นเรื่องราวของ ชิป ฟอร์ไซท์ (Chip Forsythe) และ อเล็กซ์ ฮาว (Alex Howe) สองคู่หูผู้ก่อตั้งโรงกลั่นเหล้าองุ่น เรเบิล โคสต์ (Rebel Coast) ในโซโนมา (Sonoma) ดินแดนผลิตไวน์ที่ใหญ่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเปิดฉากการผลิตเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ผสมกัญชาครั้งแรกในโลก 


“ปรากฏว่า กระบวนการทำมันยากกว่าที่คิดไว้ และไม่มีหนังสือ หรือชั้นเรียนไหนๆ ให้ศึกษา เพราะยังไม่เคยมีใครทำมันมาก่อน” สองคู่หูอธิบาย

แต่หลังจากลองผิดลองถูกอยู่นานสองนาน ทางทีมงานก็ผลิตเครื่องดื่มฟรีแอลกอฮอล์ออกมาได้ และตั้งชื่อว่าโซวีญง บล็อง (Sauvignon Blanc) มีปริมาณสารเตตร้าไฮโดรแคนนาบินอล หรือ ทีเอชซี (Tetrahydrocannabinol – THC) ซึ่งเป็นตัววัดความเข้มข้นของกัญชาอยู่ที่ 16 มิลลิกรรมต่อขวด หรือประมาณ 4 มิลลิกรรมต่อแก้ว หากมองในแง่ผลกระทบของสารทีเอชซีต่อร่างกาย ปริมาณดังกล่าวจะออกฤทธ์ในระดับอ่อน เพราะตามกฎหมายการใช้กัญชาแบบสันทนาการที่รัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาต ปริมาณทีเอชซีต้องสูงสุดไม่เกิน 10 มิลลิกรรมต่อการเสพ ดื่ม หรือรับประทานกัญชาหนึ่งครั้ง

“เราอยากปลุกจิตวิญญาณกบฏของคนอเมริกันด้วยนวัตกรรม จึงนำสองวัตถุดิบระดับโลกของรัฐแคลิฟอร์เนียนั่นคือ กัญชา และไวน์ มาสร้างกระบวนการที่เป็นกรรมสิทธิ์ จนก่อให้เกิดความอร่อย สดชื่อ และดูสง่างามของโซวีญง บล็อง ซึ่งจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในอุตสาหกรรมไวน์ และกัญชา”

โซวีญง บล็อง เป็นผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาให้สัญญาว่า ทุกคนจะได้รับรสชาติไวน์กัญชาแท้จริง ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น แถมยังไม่ก่อให้เกิดอาการแฮงค์โอเวอร์แน่นอน โดยเป้าหมายหลักของไวน์กัญชาอยู่ตรงการสร้างเสียงหัวเราะ และปอกเปลือกใครบางคนออก 

สำหรับใครที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สามารถสั่งซื้อไวน์กัญชาล่วงหน้าได้แล้ว สนนราคา 59.99 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,969 บาทต่อขวด และทางผู้ผลิตจะดำเนินการจัดส่งทันที เมื่อกฎหมายการเสพกัญชาคลายเครียดเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2018 จากนั้นจะกระจายไปตามจุดวางจำหน่ายกัญชากว่า 500 แห่ง

ที่มา – Rebel Coast