เบน ชลาทิศ ตันติวุฒิ นักร้องชื่อดัง ออกมาเปิดใจครั้งแรก หลังก่อเหตุทะเลาวิวาท ต่อยหญิงสาวในร้านอาหารย่านทองหล่อ เจ้าตัว รู้สึกผิด และละอายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเกิดจากความเมา ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญ
"ก็ยังรู้สึกสะเทือนจิตใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับที่ผมมาพูดวันนี้ ผมไม่ได้อยากมามีคำแก้ตัวใดๆ ทั้งหมด ผมเองเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว แล้วก็สำหรับคู่กรณีของผมทุกๆฝ่ายๆ ที่ได้ไปให้ปากคำ ลงบันทึกประจำวันที่ สน. ผมขออนุญาตไม่ไปพูดเรื่องนั้น เพราะว่า เดี๋ยวจะทำให้เป็นการลำบากกับตำรวจ เบื้องต้นที่ผมสามารถพูดได้ตอนนี้ก็คือ ทางผมและคู่กรณีทุกฝ่าย ได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยเรียบร้อยแล้ว รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ที่ผมดูแลทั้งหมด รวมถึงเรื่องค่าชดเชยต่างๆ ที่ฝ่ายคู่กรณีทุกๆ ฝ่ายได้เรียกร้องมาตามเห็นสมควร ก็ได้ดูแลในส่วนนั้นไป"
"สิ่งที่อยากจะพูดในวันนี้ก็คือ ขอโทษคู่กรณีของผม ผ่านสื่อตรงนี้ อยากจะบอกว่าผมรู้สึกเสียใจ ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากจะขอโทษทุกๆ ท่านที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วยนะครับ ขออภัยจริงๆ"
นักร้องชื่อดัง กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับทุกคนเลย ที่รู้จัก เบน ชลาทิศ สิ่งที่กระทำลงไปในวันนั้นอาจจะสร้างความเสียใจ สร้างความผิดหวัง สร้างความโกรธให้กับทุกๆท่าน ตนไม่มีสิทธิมาพูดคำแก้ตัวใดๆ นอกจาก "ผมรู้สึกขออภัย และรู้สึกเสียใจจริงๆ และ ผมก็รู้สึกละอายใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมเข้าใจว่า ไม่ว่าผมจะขอโทษยังไง ผมเสียใจยังไง ไอ้การกระทำมันย่อมสำคัญกว่าคำพูดนะครับ"
"ผมขออนุญาตทุกคนในการพิสูจน์ตัวเอง 1 ปีหลังจากนี้ผมขอบำเพ็ญตนเพื่อสาธารณประโยชน์ เรื่องนี้ผมก็ยังไม่ได้ปรึกษากับใคร รายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในนามของ เบน ชลาทิศ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ที่จะถึงนี้ ในทุกๆ งานจะถูกหักออก 10 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็น งานเล็ก งานใหญ่ งานคอนเสิร์ต งานจ้าง งานพีกร งานร้องเพลง งานโชว์ตัวต่างๆ จะถูกหักออก 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อไปมอบให้กับมูลนิธิใดๆ ที่สร้างประโยชน์ ให้กับสาธารณประโยชน์นะครับ รวมถึงจะเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ จะเป็นมูลนิธิใด ขออนุญาติมาแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป"
เบน ชลาทิศ กล่าวว่า ทั้งหมดที่พูดไปไม่ใช่มาทำเพื่อขอลบล้างความผิด หรือมาแก้ตัวด้วยการมาทำแบบนี้ เพียงแต่อยากจะแสดงให้เห็นว่าเสียใจในการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้น และรู้สึกละลายใจอย่างมาก หวังว่าจะได้รับการให้อภัยจากทุกๆ ท่าน
สิ่งที่เขาต้องการให้เราเข้าไปขอโทษ เราได้ไปขอโทษเขาหรือยัง ?
"คือ ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ติดต่อกันนะครับ คือได้มีการติดต่อกันแล้ว แต่ผมยังไม่ได้คุยเป็นการส่วนตัว ผมคิดว่าถ้าเกิดมันผ่านช่วงนี้ ช่วงที่ทุกอย่างมันยังโถมๆ อยู่เนี้ย ก็คิดว่ามันจะเป็นเวลาที่เหมาะสมกว่าที่ผมจะเข้าไปคุยกับเขา เป็นการส่วนตัว ตอนนี้ไม่ได้มีขอเรียกร้องอะไรเพิ่มเติม"
สาเหตุของเรื่องราว เกิดจากอะไร ?
"ทั้งหมดคู่กรณีได้ให้ปากคำและบันทึกประจำวันไปแล้ว ผมขออนุญาติไม่ไปพูดตรงนั้น เพราะถ้าผมพูดอะไรคลาดเคลื่อนไป ก็จะทำให้มีปัญหาเปล่าๆ"
สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไง ?
"ก็รู้สึกละอายใจมาก รู้สึกเสียใจจริงๆ ขออภัยจริงๆ ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความรับผิดชอบของผมจริงๆ ก็ผมไม่ขอเบี่ยงประเด็นไปทางอื่นเลยครับ ผมขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว
ผมมั่นใจว่าในกรณีที่มันเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่สังคมรับไม่ได้หรอก รวมถึงตัวผมเอง คนรอบข้างจะรู้ว่า ผมจะอ่อนไหวเรื่องแบบนี้ เวลามีข่าวใครทำร้ายใคร ไม่ใช่เฉพาะว่าทำร้ายผู้หญิงอย่างเดียว ใครก็ตามไม่มีสิทธิทำร้ายกัน ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันทำให้ผมรู้สึกละอายใจกับตัวเอง ที่ผมเป็นต้นเหตุในครั้งนี้"
หลังเกิดเหตุการณ์ ได้อ่านข้อความในโซเชียลหรือติดตามข่าวไหม ?
"ได้อ่านบ้าง ก็รู้สึกละอายใจ รู้สึกเสียใจ ก็สมควร สิ่งที่ผมได้รับเป็นสิ่งที่ผมสมควรครับ"
กลัวแฟนๆติดภาพไหม ?
"ก็ขออภัย ขออภัยแล้วก็......หวังว่าจะได้รับการให้อภัยจากทุกท่านครับ"
คนมองว่า เราเมา ?
"ผมว่าประเด็นพวกนี้พวกเราคงทราบดีอยู่แล้ว ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ขอบคุณทุกๆ คน รวมถึง ทุกท่านที่เป็นกำลังใจด้วยนะครับ ต้องขออภัย ทุกท่านที่ทำให้ทุกคนผิดหวังจริงๆ"
จะเข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เมื่อไหร่ ?
"รอเจ้าหน้าที่ติดต่อมา ตอนนี้มีการประสานงานกันอยู่ตลอด ไม่ได้เงียบไป ไม่โต้ตอบใดๆ เรื่องบางเรื่องขออนุญาตไม่บอกทางสื่อ"
ได้บทเรียนอะไรบ้างกับสิ่งที่เกิดขึ้น ?
"สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คนเราต้องมีสติ เมื่อเราไม่มีสติ สิ่งที่เราปฏิญานตน หรือสิ่งที่เรายึดมั่นมาตลอดชีวิต เราอาจจะทำมัน ทั้งที่เราไม่ได้ตั้งใจก็ได้ แต่สุดท้ายแล้ว เราก็หนีความผิดไม่ได้ครับ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :