เว็บไซต์โชซอน ภาคภาษาอังกฤษ หนึ่งในสื่อกระแสหลักของเกาหลีใต้ รายงานว่า ขณะนี้รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมพิจารณายกเลิกโครงการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2524 เนื่องจากปัจจุบันประเทศประสบปัญหาการล้นทะลักเข้าเมืองของผู้อพยพแบบผิดกฎหมาย

โดยรายงานระบุว่า เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โรคหวาดกลัวชาวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่มีผู้ลี้ภัยชาวเยเมนอพยพไปยังเกาะเจจู กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้จึงพิจารณายกเลิกหรือระงับชั่วคราวสำหรับโครงการยกเว้นวีซ่ากับบางประเทศที่พลเมืองมีแนวโน้มว่าจะอยู่เกินเวลาที่กำหนดไว้

สื่อเกาหลีใต้รายงานว่าชาวไทยที่อยู่เกินวีซ่าและลักลอบอยู่อาศัยในประเทศเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมาย มีจำนวนราว 100,000 คน จากชาวต่างชาติทั้งหมดที่หลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายราว 310,000 คนในเกาหลีใต้ ทั้งนี้ ภายใต้โครงการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2524 ระบุว่าพลเมืองชาวไทยสามารถอยู่ในเกาหลีใต้ได้ 90 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า

เมื่อปีที่ผ่านมา (2560) มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ทั้งหมด 498,511 คน ถือเป็นจำนวนที่มากที่สุดในหมู่นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับ 6 รองจาก จีน, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, สหรัฐฯ และฮ่องกง แต่สำนักสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวไทยราว 65,000 คน ที่อยู่เกินกำหนดวีซ่าที่ให้ไว้ 90 วัน ซึ่งรัฐมนตรียุติธรรมเกาหลีใต้เชื่อว่า ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่เข้าทำงานแบบผิดกฎหมายตามร้านอาหาร และสถานอาบอบนวด

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ได้คัดค้านข้อเสนอของกระทรวงยุติธรรม โดยระบุว่าไทยเป็นประเทศพันธมิตรที่สำคัญด้านนโยบายต่างประเทศเกาหลีใต้ และเป็นเส้นทางผ่านสำคัญของชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ที่ใช้ในการหลบหนีด้วย หากเกาหลีใต้ยกเลิกการยกเว้นวีซ่าเพียงฝ่ายเดียว อาจก่อให้เกิดข้อขัดแย้งทางการทูตกับไทยได้ ซึ่งประเทศไทยเองมีชาวเกาหลีใต้เดินทางเข้าท่องเที่ยวเมื่อปีที่ผ่านมากว่า 1.71 ล้านคน

ด้านสำนักข่าวมติชน รายงานว่า น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง กระแสข่าวดังกล่าวว่า ขณะนี้ทางกระทรวงไม่ได้รับแจ้งอะไรจากฝ่ายเกาหลีใต้ และยังคงมีความตกลงยกเว้นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยวระหว่างกันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทยเป็นเวลา 90 วัน 

แต่อย่างไรก็ตาม กระทรวงขอเตือนคนไทยว่า ขณะนี้ทางการเกาหลีใต้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในการตรวจคนเข้าเมือง จึงขอให้คนไทยเคารพกฎหมายของประเทศอื่นๆ อย่างเคร่งครัดด้วย พร้อมเตือนไปยังผู้ที่ไปทำงานแบบผิดกฎหมายนั้นจะไม่มีประกันสังคม หรือประกันสุขภาพ มีสภาพความเป็นอยู่ไม่ดี รวมถึงอาจถูกหลอกลวงไปทำงานผิดประเภทด้วย

ที่มา : the Chosunilbo