ไม่พบผลการค้นหา
หลังจากที่ถูกผู้นำฝรั่งเศสพูดพาดพิงเกี่ยวกับนโยบายชาตินิยม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ได้ทวีตข้อความตอบโต้ฝรั่งเศสว่าเป็นประเทศที่มีความเป็นชาตินิยมมากที่สุดในโลกและยังทำการค้ากับสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรมด้วย

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ทวีตข้อความติดๆ กันหลายข้อความ กล่าวโจมตีและล้อเลียนนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของฝรั่งเศสหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรตติ้งความนิยมจากประชาชน, แผนการจัดตั้งกองทัพยุโรป, ภาษีไวน์ และเรื่องรักชาติ หลังจากที่เมื่อสองวันที่แล้ว นายมาครงได้กล่าวสุนทรพจน์ขอให้ผู้นำโลกปฏิเสธการส่งเสริมแนวคิดชาตินิยม ในพิธีรำลึกครบรอบ 100 ปี วันสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่กรุงปารีส ซึ่งนายทรัมป์ไปร่วมงานด้วย ซึ่งเป็นการพูดพาดพิงถึงนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนของนายทรัมป์โดยตรง ทำให้ทรัมป์ไม่พอใจจนต้องทวีตข้อความตอบโต้ผู้นำฝรั่งเศส

มาครงพยายามที่จะสร้างความแตกต่างระหว่างคำว่ารักชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี กับคำว่าชาตินิยมซึ่งเขามองว่าไม่ดี แต่ทรัมป์เชื่อว่าความรักชาติและชาตินิยมก็คือสิ่งเดียวกัน และเป็นเรื่องที่ดีทั้งสองอย่าง โดยทรัมป์ทวีตข้อความล้อเลียนว่าไม่มีคนประเทศไหนในโลกที่จะมีความชาตินิยมมากไปกว่าคนคนฝรั่งเศส และคนฝรั่งเศสก็ควรจะภูมิใจในเรื่องนี้  

ทรัมป์ยังได้ทวีตข้อความโจมตีฝรั่งเศสว่าทำการค้ากับสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรม โดยยกตัวอย่างเรื่องไวน์ ซึ่งสหรัฐฯ แทบจะไม่เก็บภาษีไวน์นำเข้าจากฝรั่งเศสเลย ขณะที่ฝรั่งเศสเก็บภาษีไวน์นำเข้าจากสหรัฐฯ สูงมาก ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง

a33.jpg

นายทรัมป์ยังล้อเลียนนายมาครงเกี่ยวกับคะแนนนิยมที่ตกลงเรื่อยๆ ทรัมป์บอกว่ามาครง ตอนนี้มีคะแนนนิยมอยู่ที่ 26 เปอร์เซ็นต์ อัตราคนตกงานก็สูงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ มาครงจึงต้องพยายามเปลี่ยนความสนใจของคนในประเทศไปที่เรื่องอื่น ส่วนเรื่องแผนการสร้างกองทัพยุโรป ที่มีการพูดคุยกับ อังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ทรัมป์ก็ล้อเลียนว่าไม่ใช่เยอรมนีหรือที่รุกรานฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ซึ่งในตอนนั้น คนฝรั่งเศสต้องเริ่มเรียนภาษาเยอรมันกันแล้ว ก่อนที่สหรัฐฯ จะเข้ามาช่วย

การทวีตข้อความครั้งนี้ของทรัมป์น่าจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ขณะที่ BBC รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในทำเนียบประธานาธิบดีของฝรั่งเศสว่ารัฐบาลฝรั่งเศสไม่มีแผนที่จะตอบโต้ทวีตของทรัมป์ เพราะมองว่าสิ่งที่ทรัมป์ทวีตเป็นการสื่อสารกับประชาชนในสหรัฐฯ เท่านั้น