นายพรชัย ฐีระเวช รองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ แก้ไขเพิ่มเติมแหล่งที่มาเงินกองทุนผู้สูงอายุ แหล่งใหม่อีก 2 แห่ง ได้แก่ จากภาษีสรรพสามิตร้อยละ 2 ที่เก็บจากสินค้าสุราและยาสูบ แต่ไม่เกิน 4,000 ล้านบาท / และจากเงินบริจาคจากผู้สูงอายุที่สละสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพ เพื่อนำเงินนี้ไปช่วยเหลือผู้สูงอายุยากจนในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 

โดยตามข้อมูลการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ พบว่า มีผู้สูงอายุรายได้น้อย จำนวน 3 ล้าน 6 แสนคน ขณะที่ ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพในปัจจุบันตามข้อมูลของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีจำนวน 8 ล้านคน จึงคาดว่า ผู้สูงอายุอีกประมาณ 4 ล้าน 4 แสนคน ที่น่าจะพอมีฐานะ ซึ่งในจำนวนนี้ หากมีผู้ประสงค์บริจาคเงินเข้ากองทุนฯ อย่างน้อยร้อยละ 25 หรือ ประมาณ 1 ล้านคน ย่อมทำให้มีเงินบริจาคอย่างน้อย 8 พันล้านบาท 

เมื่อสมทบกับเงินภาษีสรรพสามิตไม่เกิน 4 พันล้านบาท และเงินกองทุนผู้สูงอายุที่มีในปัจจุบันอีก 400 ล้านบาท น่าจะทำให้มีเงินกองทุนเพื่อนำไปช่วยเหลือค่าครองชีพผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยได้เพิ่มเติมประมาณปีละ 12,400 ล้านบาท เป็นเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่มเติมจากงบประมาณประจำปีสำหรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่มีปีละ 64,000 ล้านบาท

"ประโยชน์การทำบุญติดจรวดครั้งนี้ หลังจากที่นำเงินบริจาคแล้ว หนึ่ง ได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ สอง นำเงินบริจาคไปหักลดหย่อนภาษีได้ และสาม คนไทยจิตใจดีใจบุญใจกุศล ทำบุญแล้วเห็นผลทันที การทำงานครั้งนี้เป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ทำบุญติดจรวดเลย เพราะเมื่อบริจาคปุ๊บ เงินก็เข้ากองทุนผู้สูงอายุ และกองทุนก็นำไปจัดสรรให้คนที่มีโอกาสน้อยกว่าเรา"นายพรชัย กล่าว

ผู้สูงอายุที่ประสงค์จะบริจาคเงินเข้ากองทุนฯ สามารถนำบัตรประชาชน หรือ เอกสารมอบอำนาจ ไปแจ้งความประสงค์ได้ที่หน่วยงานแจ้งลงทะเบียน อาทิ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร เทศบาล อบต. กรณีมีทะเบียนบ้านต่างจังหวัด แต่อาศัยในกรุงเทพฯ สามารถแจ้งได้ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เขตดุสิต ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ ผู้สูงอายุที่แจ้งความประสงค์บริจาคเบี้ยยังชีพ จะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัดทำขึ้น พร้อมกับได้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1 เท่าของเงินบริจาค โดยจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป 

รายงานโดย : อังศุมาลิน บุรุษ