ปีนังยังคงมีร่องรอยความเฟื่องฟูของอดีตที่กาลเวลาไม่สามารถทำอะไรได้ คราวนี้เราจะพาไปดูประวัติศาสตร์ของปีนังผ่านสถานที่สำคัญและอาหารว่าทำไมเกาะแห่งนี้ มีเวลาเที่ยว 3-4วันก็ยังไม่เบื่อกันง่ายๆ
ประวัติศาสตร์การเมืองและอาหารของปีนัง
เกาะปีนังกลายเป็นสถานที่ลี้ภัยทางการเมืองที่คนไทยรู้จักดี จุดแรกที่จะพาไปเยี่ยมชมก็คือ "วัดปิ่นบังอร"ซึ่งเป็นหลุมศพของพระยามโนปกรณ์นิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย ที่ลี้ภัยการเมืองมาจบชีวิตที่นี่
พระยามโนปกรณ์ฯก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯจากการประณีประณอมระหว่างคณะราษฎรและอำนาจจารีต ซึ่งพระยามโนปกรณ์ฯกลับหักหลังคณะราษฎร โดยปูทางให้อำนาจจารีตกลับมาอีกครั้ง ทั้งบีบ นายปรีดี พนมยงค์ ออกนอกประเทศจากเค้าโครงเศรษฐกิจที่นำเสนอ รวมไปถึงใช้อำนาจปิดสภาและงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา จนทำให้ถูกตลบหลังและต้องเดินทางออกนอกประเทศมายังเกาะปีนังถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
อีกจุดหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมคือ "ลานเอสพลานาด" หรือลานคนเมืองบริเวณศาลาว่าการของเกาะปีนัง ริมทะเลรับลมเย็นๆ ที่เคยถูกเขียนถึงในบันทึกของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อครั้งลี้ภัยทางการเมืองยังเกาะปีนัง
นิตยสารสารคดี เคยมาตามรอยของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แล้วพบว่าบ้านหลังที่ท่านพำนักหรือ "ตำหนักชินนาม่อน" นั้นมีความทรุดโทรมและได้รื้อถอนไปแล้วซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ที่เอสพลานาดก็มีความร่มเย็น ลานกว้างๆ แห่งนี้แดดร่มลมตกจะมีคนมาทำกิจกรรมรอบๆทั้งออกกำลังกาย เดท หรือปิคนิค เป็นการให้ความสำคัญต่อพื้นที่สาธารณะของประชาชน
เดินเที่ยวกันจนเหนื่อยแล้วได้เวลากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ปีนังเป็นอีกเมืองที่อาหารสตรีทฟู้ดขึ้นเชื่อไม่แพ้ กทม. ไทเป สิงคโปร์ หรือว่าฮ่องกงเลย เพราะเป็นอาหารลูกผสมทั้งจีนและมลายู ทำให้มีรสชาตที่แปลกใหม่ อีกทั้งยังมีกลุ่มชนที่หลากหลายบนเกาะ เราจะเจอทั้งอาหารอินเดีย อาหารฮาลาล และอาหารจีนตั้งสลับกันไปตามย่านต่างๆ
มาทั้งทีในช่วงอากาศเริ่มเย็น ขอชิม "บักกุดเต๋" อาหารขึ้นชื่อที่ผสมระหว่าง หมู เห็ดหอม เต้าหู้ ตุ๋นกับยาจีนสมุนไพรชั้นดีเพื่อขับไล่เลือดลมในร่างกายให้คลายหนาว หรือจะกิน ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆที่รสชาติคล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเราแต่มีซุปที่เข้มข้นจากกระดูกไก่ก็ไม่เลว
กินอาหารคาวก็ต้องตามด้วยของหวาน ของหวานก็มีหลากหลายทั้งขนมหวานเย็นๆหรือจะเป็นขนมสูตรเปอรานากัน รสชาติเหมือนขนมเปียกปูนโรยด้วยมะพร้าวกลิ่นหอมชวนหิวก็ไม่เลว ราคาอาหารโดยรวมก็ถือว่าไม่แตกต่างจากเมืองไทยมากนักยิ่งตอนนี้ริงกิตร่วงหนักก็ยิ่งน่าไปเที่ยว หากมีโอกาสไปตามรอยกันได้ เผื่อคุณจะพบมุมดีๆของปีนังในแบบของคุณ