ไม่พบผลการค้นหา
ครม.รับทราบสต็อกปาล์มน้ำมันล้น 4.5 แสนตัน ดัน 4 มาตรการ แก้ปัญหา สั่งกระทรวงพลังงานนำน้ำมันปาล์มดิบผลิตไฟฟ้า เพิ่มสัดส่วนผสมในน้ำมันดีเซลที่ใช้กับรถบรรทุก พร้อมขยายเวลาส่งออกปาล์มไปถึง พ.ค. 2562 ควบคู่เร่งเจรจาสเปนให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน ด้านโฆษกรัฐบาล ย้ำไม่เกี่ยวเลือกตั้ง แต่ต้องแก้ปัญหาราคาตก

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 พ.ย. มีมติรับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เสนอ พร้อมกับรับทราบรายงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ 

เนื่องจาก ปัจจุบันมีสต็อกปาล์มน้ำมันทั้งหมด 4.5 แสนตัน จากปกติเก็บสต็อกปาล์มอยู่ที่ 2.5 แสนตัน จึงส่งผลต่อราคาปาล์มน้ำมัน ดังนั้น จึงมี 4 ขั้นตอน แก้ปัญหา ประกอบด้วย 

1.ปรับการเก็บสต็อกปาล์มน้ำมัน โดยประสานงานกับกระทรวงพลังงานให้นำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงงานไฟฟ้าที่มีศักยภาพ ที่ใช้ปาล์มมากถึง 160,000 ตัน เพื่อลดสต็อกปาล์มภายในประเทศ 

2.ขยายเวลาส่งออกปาล์มไปอีก 6 เดือน จากเดิมที่สิ้นสุดในเดือน พ.ย. 2561 จะไปสิ้นสุดในเดือน พ.ค. 2562 

3.เพิ่มสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซล (บี7) จากอัตราส่วนผสมร้อยละ 6.5 - 7.0 เป็นร้อยละ 6.8 - 7.0 ซึ่งจะส่งผลให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นปีละ 80,000 ตัน จากเป้าหมายใช้ปาล์ม 10 ล้านลิตรต่อปี แต่ปัจจุบันใช้ไปเพียง 4 ล้านลิตร พร้อมกันนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงพลังงานหาแนวทางส่งเสริมและมาตรการจูงใจให้มีการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ในรถบรรทุกและรถยนต์ขนาดเล็กด้วย 

4.เร่งเจรจาส่งออกปาล์มไปยังประเทศสเปน ซึ่งมีความสนใจซื้อปาล์มจากไทย โดยให้ดำเนินการเจรจาให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน

พร้อมกับคาดว่า นโยบายนี้ จะส่งผลให้ราคาปาล์มปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราคา 3.10 บาทต่อ กก. จากเดิมราคาอยู่ที่ 2.60 บาทต่อกก. ในเร็ววัน แม้จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะสั้น แต่ในระยะยาวได้มีการขอตั้งคณะอนุกรรมการบริหารติดตาม การแก้ไขปัญหาปาล์ม ซึ่งมีนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน

นอกจากนี้ นายพุทธิพงษ์ ยังกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หามาตรการแก้ปัญหายางพาราที่ราคายังไม่น่าพอใจด้วย โดยให้หาแนวทางหรือมาตรการเร่งด่วน แล้วเสนอกลับเข้ามาที่ ครม.ภายใน 7 วัน พร้อมกับขอให้เร่งสื่อสารให้เกษตรกรชาวสวนยางรับทราบแนวทางและความห่วงใยของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความเข้าใจในการแก้ไขปัญหาเมื่อมีมาตรการชัดเจน

"ยืนยันว่ามาตรการที่ออกมาไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือการเลือกตั้ง แต่ภาคใต้และภาคอีสานมียางพาราในสต็อกจำนวนมาก ปาล์มก็เร่งมาตรการแก้ปัญหา แต่ช่วงนี้มีเสียงสะท้อนมามากว่าราคาปาล์มและยางพารามีแนวโน้มตกลงเรื่อยๆ" นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :