ไม่พบผลการค้นหา
การเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียจะมีขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ โดยพรรคฝ่ายค้านเร่งรณรงค์ให้คนออกไปใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบ

การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ของมาเลเซีย มีข้อจำกัดหลายประการที่อาจเอื้อให้ฝ่ายรัฐบาลได้ชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งกระชั้นชิด ทำให้มีเวลาหาเสียงเพียง 11 วัน หรือการประกาศเลือกตั้งในวันพุธ แทนที่จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้นักวิเคราะห์และฝ่ายค้านต่างวิจารณ์ว่ารัฐบาลของนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตนเองได้เปรียบในการเลือกตั้ง รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านข่าวปลอมก่อนหน้าการยุบสภาไม่นาน ทำให้นักการเมืองฝ่ายค้าน 2 คน รวมถึงนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด แกนนำฝ่ายค้านวัย 92 ปี อดีตนายกฯมาเลเซียผู้ครองตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 22 ปี ต้องถูกฟ้องร้องในข้อหาเผยแพร่ข่าวปลอมจากการปราศรัยหาเสียงโจมตีรัฐบาล


AP18126615152893.jpg

นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ปราศรัยหาเสียงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีผู้เข้าร่วมฟังนับหมื่นคน

ในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พฤษภาคม) มีผู้ลงทะเบียนไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้า 300,000 คน และไปใช้สิทธิ์จริงประมาณ 280,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนไม่มากนัก และคาดว่าผู้ไปใช้สิทธิ์จะน้อย เนื่องจากความไม่สะดวกในการต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปเลือกตั้งในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ในการปราศรัยของนายมหาเธร์ท่ามกลางสายฝนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (6 พฤษภาคม) เขาได้เรียกร้องให้เกิด "สึนามิประชาชน" หลั่งไหลไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยย้ำว่ายิ่งมีผู้ไปใช้สิทธิ์มาก การสวมสิทธิ์ โกงการเลือกตั้ง ก็จะเกิดขึ้นน้อยลง เพราะหากพรรคฝ่ายค้านชนะเลือกตั้งเพียง 200-300 เสียงต่อเขต ก็จะมีการโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

สื่อต่างชาติมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะสูสีที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนายมหาเธร์เป็นนักการเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และกระแสความนิยมในตัวนายนาจิบก็กำลังตกต่ำลงอย่างมากเป็นประวัติการณ์จากกรณีทุจริตคอรัปชั่น และความพยายามเอาผิดนักการเมืองฝ่ายค้านก่อนหน้าการเลือกตั้ง โดยผลสำรวจความนิยมล่าสุดพบว่าฝ่ายค้านมีคะแนนนำอยู่ที่ร้อยละ 42 ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลมีคะแ���นร้อยละ 40 แต่กฎหมายเลือกตั้งจะเอื้อให้พรรครัฐบาลสามารถคว้าชัยชนะไปได้