ไม่พบผลการค้นหา
อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ร้อง กกต. เอาผิด 'พลังประชารัฐ-กลุ่มสามมิตร' ใช้พลังดูด ผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง โทษจำคุก 5 ปี และต้องไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีตส.ส. ลพบุรี พรรคเพื่อไทยได้ยื่นหนังสือต่อประธาน กกต. และเลขาธิการ กกต. เรียกร้องให้ กกต. เพื่อ ระงับและไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ และดำเนินคดีกับรองนายกรัฐมนตรี 2 คน รัฐมนตรี 2 คน ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกับกลุ่มสามมิตรกับพวกกระทำการ ผิดต่อรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 15, 21,30, 31,45,46, 54,90,92 และ 106 มีโทษจำคุก ถึง 5ปี โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้

  • ระงับไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐเพื่อเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นความจริงใจและ   ไม่เลือกปฏิบัติของ กกต. และให้เร่งรีบไต่สวนก่อนที่จะปล่อยให้พรรคพลังประชารัฐดำเนินการต่อไป 
  • ให้ดำเนินการไต่สวนตามกฎหมายในกรณีที่ พลเอกประวิตรฯ นายสมคิด ฯ นายอุตตมฯ นายสนธิรัตน์ฯ และกลุ่มสามมิตร ร่วมกันกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560  
  • กกต. ต้องรีบแจ้งนายกรัฐมนตรีให้มีคำสั่งมิให้ พลเอกประวิตรฯ นายสมคิดฯ และนายอุตตมฯ รวมทั้งรัฐมนตรีต่างๆ ยุติการกระทำผิดรัฐธรรมนูญในการใช้ทรัพยากร และบุคลากรของรัฐเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้ง 
4907.jpg


โดยพฤติการณ์การกระทำที่เป็นขบวนการ และแบ่งแยกหน้าที่กันทำโดยมีเจตนาประสงค์เพื่อดูดสมาชิกพรรคการเมืองจากพรรคอื่นเข้าสู่พรรคพลังประชารัฐ อันมิใช่เป็นการย้ายพรรคของสมาชิกโดยปกติ ดังนี้

ประการที่ 1 นายชวน ชูจันทร์ ในฐานะผู้ยื่นคำร้องขอจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐที่ได้ยินยอมและสมคบกับกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นให้ใช้พลังดูดสมาชิกพรรคการเมืองอื่นเข้าพรรคตนอันมิใช่การย้ายพรรคโดยปกติ ซึ่งตนมีข้อสังเกตว่า ไม่มีข้อบังคับของพรรคการเมืองใด เพราะตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ.พรรคการเมืองไม่อนุญาตให้ไปดูดสมาชิกพรรคการเมืองอื่น และพฤติการณ์ท��่กระทำอยู่ขณะนี้จะทำให้ข้อบังคับของพรรคพลังประชารัฐที่จะยื่นต่อ กกต. เป็นเท็จ 

ประการที่ 2 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายภิรมย์ พลพิเศษ และกลุ่มบุคคลอีกหลายคนได้กระทำการรวมตัวกันเรียกว่ากลุ่มสามมิตรแล้วแบ่งหน้าที่กันไปใช้พลังดูดสมาชิกเข้าพรรคพลังประชารัฐ ด้วยการเสนอจะให้ประโยชน์ทางตรงและทางอ้อมเพื่อจูงใจให้อดีตนักการเมืองที่เคยเป็น ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเป็นผู้สมัคร ส.ส. ที่จะมีการเลือกตั้งในนามพรรคพลังประชารัฐโดยการใช้พลังดูดดังกล่าวกระทำโดยเปิดเผยเป็นที่รับรู้กันทั่วไปจนถึงขนาดมีการประกาศรายชื่อว่าได้ใช้พลังดูดใครสำเร็จบ้างแล้วซึ่งมีจำนวนกว่า 50 คน การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะมาตรา 30 อย่างชัดเจน ทั้งที่บุคคล และกลุ่มบุคคลดังกล่าวข้างต้นมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการยื่นคำขอการแจ้งการเตรียมการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐของนายชวน ชูจันทร์ แต่อย่างใด

ประการที่ 3 ตนออกมาร้องเรียนในครั้งนี้ เพราะตน และนายพิชัย อดีต สส.จังหวัดลพบุรีเอง ก็ถูกกลุ่มสามมิตรดูด โดยเสนอว่าจะให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมในการสมัครรับเลือกตั้ง สส.จังหวัดลพบุรีในนามพรรคพลังประชารัฐ แต่ตนให้นายพิชัย ไปหาพยานหลักฐานว่าจริงหรือไม่ แต่แล้วก็พบว่าเป็นความจริง เพราะ  นายพิชัยฯ ได้พบกับนายสมคิด และนายอุตตม ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 

"ตนจึงขอตั้งคำถามว่านายสมคิดฯ และนายอุตตมฯ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรู้ว่ามีข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญแล้วยังฝืนกระทำการจูงใจนายพิชัยฯ ถือว่าทั้งไม่สมควร และกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญ และกฎหมายซึ่งตนและนายพิชัยฯ มีพยานหลักฐานที่จะนำเสนอ กกต. ต่อไป และขณะนี้พยานหลักฐานครบถ้วนจากการยืนยันของนายสุริยะฯ เองว่า นายสุริยะฯ เปิดเผยว่าได้มีการติดต่อกับนายสมคิดฯ นายอุตตมฯ และนายสนธิรัตน์ฯ สอดคล้องกับที่นายพิชัยฯ ได้พบกับนายสมคิดฯ และนายอุตตมฯ ตามที่กล่าวมา"

ประการที่ 4 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณได้กล่าวสนับสนุนการกระทำของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ใช้พลังดูดในนามของกลุ่มสามมิตรที่สนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกต่อไปทั้งที่ พลเอกประวิตร ทราบดีอยู่แล้วว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 (4) บัญญัติห้ามมิให้คณะรัฐมนตรีใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดอันอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง 

หลังจากนี้ตนจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่า กกต. นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. จะดำเนินการอย่างไรต่อเรื่องนี้ในฐานะผู้รักษากฎหมายของบ้านเมือง ขอให้สังคมช่วยกันติดตามเรื่องนี้ด้วย

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีฝ่ายการเมืองโจมตีว่าลำเอียงให้กลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวทางการเมืองได้มากกว่าพรรคการเมืองอื่น ว่า กลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวพบปะกันก็เหมือนกับการที่พรรคการเมืองนัดกันไปตีกอล์ฟและพูดคุยกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วทำไมไม่ไปโจมตีกัน ทำไมถึงไม่บอกว่าพรรคการเมืองเหล่านั้นไปดูดส.ส.บ้าง แล้วถามว่าตนลำเลียงตรงไหน ส่วนตัวยังไม่รู้จักเลยว่ากลุ่มสามมิตรเป็นใคร เขาไปทำอะไรและไปหาใคร

"ผมลำเอียงเรื่องอะไร ผมไม่รู้จัก โดยเฉพาะนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ส่วนที่เขารู้จักผมก็รู้จักไป สำหรับกรณีที่มีชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีอยู่ร่วมในกลุ่มสามมิตรด้วยนั้น คงไม่ใช่ เพราะผมยังไม่เคยเจอนายสุริยะเลย และที่บอกกลุ่มสามมิตรจะอยู่พรรคพลังประชารัฐ ถามว่าพรรคเกิดแล้วหรือยัง ซึ่งก็เป็นเพียงการจดแจ้งชื่อจัดตั้งพรรคที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เท่านั้น" พล.อ.ประวิตร กล่าว