ในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา มลรัฐแคลิฟอร์เนียอนุญาตให้ประชาชนสามารถซื้อขายกัญชาเพื่อการสันทนาการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมา อนุญาตเฉพาะการซื้อขายเพื่อใช้ในทางการแพทย์ บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ไปต่อคิวรอซื้อกัญชากันตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 31 ธันวาคม โดยบัดดีส์ ร้านขายกัญชาร้านแรกในแคลิฟอร์เนียที่ได้รับอนุญาตให้ขายกัญชาเพื่อการสันทนาการ ระบุว่าทางร้านมีคนเข้าคิวรอหลายร้อยคนก่อนถึงเวลาเปิดทำการในวันที่ 1 มกราคม และเดิมตั้งเป้าว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30 แต่ปรากฏว่าจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นในคืนเดียวถึงร้อยละ 60
บรรยากาศคึกคักของร้านขายกัญชาในเมืองโอคลีย์ แคลิฟอร์เนีย ในวันที่ 1 มกราคม 2018 วันแรกที่เปิดให้ซื้อขายกัญชาได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
ก่อนหน้านี้ มี 5 มลรัฐและเขตปกครองในสหรัฐฯที่รับรองให้การซื้อขายครอบครองกัญชาทั้งเพื่อการแพทย์เพื่อการสันทนาการทำได้โดยถูกกฎหมาย ได้แก่มลรัฐวอชิงตัน เริ่มอนุญาตปี 2013 โคโลราโด และกรุงวอชิงตันเริ่มอนุญาตในปี 2014 โอเรกอน เริ่มปี 2015 และอะแลสกาในปี 2016 แต่การอนุญาตการซื้อขายกัญชาในแคลิฟอร์เนียมีนัยสำคัญหลายประการ นั่นก็คือที่นี่เป็นสถานที่ที่มีการผลิตกัญชาเข้าสู่ตลาดมืดมากที่สุดในสหรัฐฯ กว่าร้อยละ 80 ของปริมาณกัญชาผิดกฎหมายทั้งประเทศ และแคลิฟอร์เนียยังเป็นมลรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐฯ
ด้วยเหตุนี้ การเปิดให้ซื้อขายกัญชาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในแคลิฟอร์เนีย จึงเป็นการเปิดช่องให้อุตสาหกรรมกัญชาเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด มีการประเมินว่ามูลค่าอุตสาหกรรมกัญชาในแคลิฟอร์เนียจะสูงถึง 7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 226,000 ล้านบาท ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า มากกว่ามูลค่าของอุตสาหกรรมกัญชาทั้งประเทศรวมกันในปี 2016 ซึ่งอยู่ที่ 6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 194,000 ล้านบาท
กัญชาอบแห้งพร้อมบริโภค ขายในราคาแตกต่างกันตามคุณภาพและแหล่งผลิต
นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปี 2016 ยังมีหลายมลรัฐ ได้แก่เมน แมสซาชูเซตส์ และเนวาดา ที่ประชาชนลงคะแนนให้มีการอนุญาตการซื้อขายและครอบครองกัญชาอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งกำลังมีกระบวนการผ่านกฎหมายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังมีอีกหลายมลรัฐ เช่นเวอร์มอนต์ นิวเจอร์ซี และมิชิแกน ที่คาดว่าจะประกาศให้ซื้อขายกัญชาอย่างถูกกฎหมายได้ภายในปี 2018 นี้
อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้มีธุรกิจกัญชาทำได้อย่างถูกกฎหมายในหลายมลรัฐ แม้จะสร้างรายได้ให้รัฐอย่างมาก และลดการกระทำผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้สามารถทำให้การซื้อขายกัญชาในตลาดมืดยุติลงอย่างถาวรได้ เนื่องจากในมลรัฐอื่นๆที่ยังไม่ได้อนุญาตการซื้อขายกัญชา ความต้องการกัญชาจากตลาดมืดยังคงมีสูงมาก เพราะการซื้อขายและส่งไปรษณีย์กัญชา รวมถึงการขนส่งทางเครื่องบินข้ามมลรัฐ ยังไม่สามารถทำได้
