ไม่พบผลการค้นหา
เพนกวิน กล่าวแถลงการณ์ต่อหน้าศาล เรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง ถามศาล "ท่านจะกลัวอะไรกับความจริง" พร้อมประกาศอดอาหารประท้วง เผยจดหมายไม่ต้องการปลิดชีวิตตัวเองแต่ขอทรมานตัวเอง ยินดีสละชีวิตตัวเองได้

วันที่ 15 มี.ค. 2564 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่ช่วงเช้ามีการนัดพร้อมคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เบิกตัว เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, อานนท์ นำภา ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก, ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา, สมยศ พฤกษาเกษมสุข, หมอลำแบงค์-ปฏิภาณ ลือชา, โตโต้-ปิยะรัฐ จงเทพ, แอมมี่-ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ และ รุ้ง-ปนัสยา มาศาลเพื่อเข้าการพิจารณาคดี

โดยบรรยากาศการพิจารณาคดีในช่วงเช้า ศาลได้เปิดห้องพิจารณาคดีให้ญาติ และประชาชนที่มาให้กำลังใจเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาคดีได้ แต่ระหว่างการพิจารณานัดพร้อมเพื่อตรวจสอบพยานหลักฐาน เพนกวิน ได้ขอแถลงการณ์ต่อหน้าศาลถึงสิทธิในการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ได้มีสิทธิในการรวมรวบพยานหลักฐาน เพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม โดยมีตอนหนึ่ง เพนกวิน กล่าวถามศาลด้วยว่า "ท่านจะกลัวอะไรกับความจริง"

ทั้งนี้ระหว่างที่เพนกวินลุกขึ้นอ่านแถลงการณ์นั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และตำรวจศาลได้พยายามเข้ามาหยุดการกระทำของเพนกวิน แต่ประชาชนที่เข้าไปอยู่ในห้องพิจารณาคดี ได้รวมตัวกันเป็นแนวกั้นเพื่อปกป้องการอ่านแถลงการณ์ได้จนจบ ซึ่งในครั้งนี้ เพนกวินประกาศด้วยว่า จากนี้ไปเขาจะอดอาหาร โดยจะประทังชีวิตด้วยน้ำ และน้ำหวานเท่านั้น เพื่อประท้วงเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้กับผู้ถูกกล่าวหาในคดีการเมือง

จากกรณีที่เกิดขึ้นศาลได้สั่งยุติการพิจรณาคดีในช่วงเช้าทันที และเมื่อมีการพิจารณาคดีต่อในช่วงบ่าย ศาลได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงญาติ เข้าไปในห้องพิจารณา

เวลาประมาณ 13.20 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และตำรวจศาล ได้นำตัวผู้ต้องหาที่ถูกสั่งขังระหว่างพิจารณาคดี ขึ้นมาที่ห้องพิจารณาอีกครั้ง เมื่อเพนกวิน มาถึงบริเวณด้านหน้าห้องพิจารณาคดี พร้อมกับแม่ของเขา เจ้าหน้าที่พยายามปิดกั้นไม่ให้แม่ตามเขาไปในห้องพิจารณาคดีด้วย แต่เพนกวินกล่าวกับจากหน้าที่ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดเจนว่า "คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้ คุณจะพรากลูกพรากแม่เหรอ" จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ยอมเปิดทางให้กับญาติ พ่อ แม่ ของผู้ถูกกล่าวหาซึ่งถูกขังระหว่างพิจารณาคดีได้เข้าไปรับฟังการพิจารณาคดีด้วย

ทั้งนี้ในช่วงเช้า ระหว่างที่เพนกวินออกเดินทางมาถึงศาล ในช่วงที่เขากำลังลงจากรถควบคุมตัว เขาชูสามนิ้วพร้อมกล่่าวต่อผู้ที่มาให้กำลังใจว่า "ฝากบอกพวกเขาด้วยว่า ถึงเขาจะขังผมได้ แต่เขาไม่อาจขังความจริงได้ ความจริง ย่อมเป็นความจริง ไม่ว่าจะอยู่ที่กรงขัง เครื่องทรมาน หรือหลักประหาร ความจริงย่อมเป็นความจริง"

นอกจากการพิจารณานัดพร้อมคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร แล้ว วันนี้ศาลยังมีนัดฟังคำสั่งกรณีที่ทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาเพื่อมีคำสั่งให้ย้าย ปิยรัฐ จงเทพหรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดกลุ่มวีโว่ จตุภัทร์หรือ "ไผ่" และภาณุพงศ์หรือ "ไมค์" ที่ถูกนำตัวไปควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษธนบุรี กลับมาคุมขังที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพฯ ตามหมายขังของศาล

โดยศาลมีคำสั่งอนุญาตตามคำร้องของทนายความ ให้ย้ายที่คุมขังทั้ง 3 คนจากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีคำสั่งมีผลทันที นั้นหมายความว่าผู้ถูกควบคุมอยู่ที่เรือนจำธนบุรีจะเหลือเพียง แอมมี่-ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ คนเดียว

ต่อมา เฟซบุ๊ก ราษฎร เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกของ เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ จำเลยในคดีชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์และท้องสนามหลวง โดยมีใจความว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ยังเป็นมะเร็งร้ายที่กัดกินประชาธิปไตยไทยมาโดยตลอด ในช่วงทศวรรษแห่งความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมา มาตรา 112 ถูกใช้เป็นอาวุธทิ่มแทงทำร้ายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองมานับครั้งไม่ถ้วน 

"แต่ความจริงย่อมเป็นความจริง ไม่ว่าจะอยู่ในกรงขัง ในเครื่องทรมาน หรือที่หลักประหาร ความจริงก็ยังคงเป็นความจริง ไม่ว่าท่านจะจับข้าพเจ้าไปคุมขังให้เกิดความทุกข์ทรมานมากเพียงใด ความทุกข์ทรมานนั้นก็ไม่อาจทำลายความจริงได้ ข้าพเจ้าจึงยินดีที่จะรับความทุกข์ทรมานที่พวกท่านจะยัดเยียดให้ และจะยังขอทรมานตนเองเพิ่มด้วย ดังนั้น นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าจะขออดอาหาร ประทังชีพด้วยน้ำ น้ำหวาน และนมเท่านั้น ไปจนกว่าท่านจะคืนสู่สามัญสำนึกโดยการคืนสิทธิประกันตัวสู้คดีให้กับข้าพเจ้า ให้กับผู้กล่าวหาคดีมาตรา 112 และให้กับผู้ถูกกล่าวหาทางการเมืองทุกคน หรือจนกว่าชีวิตของข้าพเจ้าจะหาไม่"

พริษฐ์ ระบุว่า "ข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาจะปลิดชีวิตของตน แต่จะขอทรมานตนเอง เพื่อให้ความทรมานที่เกิดกับข้าพเจ้าเป็นประจักษ์พยานแห่งความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น เป็นประกายไฟสะกิดมโนสำนึกของพวกท่าน และเป็นข้อพิสูจน์ว่าความจริงไม่เกรงกลัวต่อความทุกข์ทรมานใดๆ หากข้าพเจ้าต้องสละชีวิตลง ข้าพเจ้าก็ยินดีสละ เพื่อวันหนึ่งประเทศของเราจะไม่มีกฎหมายมาตรา 112 ไม่มีใครต้องตกเป็นนักโทษทางการเมือง และ 3 ข้อเรียกร้องจะบรรลุเป็นจริง ประเทศไทยจะได้เป็นของคนไทยทุกคนอย่างเสมอภาคโดยสมบูรณ์"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง