การเมือง
'หักหลัง-ผิดหวัง' เปิดเสียงประชาชนในเขต ส.ส.งูเห่าทิ้งอุดมการณ์ อนค.
หลังพรรคอนาคตใหม่ที่นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสข่าวพลังดูด-ทุ่มทุนซื้อตัว ส.ส.ในสังกัดอดีตพรรคอนาคตใหม่
ทำให้ช่วงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ ต้องออกมาแฉ ตามด้วยลิสต์รายชื่อที่ลือว่า ส.ส.งูเห่า จะทิ้งอุดมการณ์อนาคตใหม่ ย้ายไปซบ 'พรรคภูมิใจไทย' ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ส.ส.อนาคตใหม่ ที่เดิมทีมีเสียงในสภาฯ หลังยุบพรรค 65 เสียง จะต้องเสีย ส.ส. เพิ่มอีก 9 เสียงไปให้กับพรรคภูมิใจไทย เติมเต็มเป็นรัฐบาล 273 เสียง ทิ้งห่างพรรคฝ่ายค้านไปถึง 58 เสียง
อย่างไรก็ดี ส.ส. ในจำนวน 9 คน เป็น ส.ส. ในเขตพื้นที่ ซึ่งด้วยระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน หรือ 'ระบบ MMA' ที่ถูกออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 โดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)
สูตรการเลือกตั้งดังกล่าว ทำให้บัตรเลือกตั้งเหลือเพียง 1 ใบ คือ เลือกทั้งพรรคและตัว ส.ส.เขตไปพร้อมกันทีเดียว ซึ่งแตกต่างจากระบบการเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญ ปี2540 และปี2550 ที่กำหนดให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใช้สำหรับเลือก ส.ส.ในเขตพื้นที่ และเลือกพรรคการเมืองที่ตนเองต้องการได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแสคะแนนเสียงกว่า 6.3 ล้านเสียงที่เทให้กับพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 เกิดขึ้นเพราะกระแสของ 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' และ 'ปิยบุตร แสงกนกกุล' จนทำให้ได้ ส.ส.ถึง 81 เสียงเข้าสู่สภาฯ ด้วยการเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่
ล่าสุด 'วอยซ์ ออนไลน์' บุกสำรวจเขตพื้นที่ ส.ส.อดีตอนาคตใหม่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อสอบถามความเห็นประชาชนว่าถ้าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในขณะนี้จะยังเลือก ส.ส.คนเดิมที่ย้ายจากพรรคเดิมเข้าสู่พรรคภูมิใจไทยอยู่หรือไม่
เริ่มต้นที่เขตพื้นที่ของ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 20 สวนหลวง, ประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน และแขวงดอกไม้) อดีตพรรคอนาคตใหม่ ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 40,483 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคพลังประชารัฐ 29,557 คะแนน
เสียงของคนรุ่นใหม่รายหนึ่ง จากเขตประเวศ ระบุว่า "รู้สึกเสียใจ" เพราะว่า เธอได้ให้คนที่บ้านช่วยเลือกพรรคอนาคตใหม่ด้วย เพราะคิดว่าพรรคอนาคตใหม่จะมาพัฒนาประเทศได้ ส่วนหากแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ลงเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง เธอยืนยันว่า จะเลือกพรรคใหม่ที่ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่เข้าสังกัด ด้วยความเชื่อที่ว่า อุดมการณ์ของ ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่จะสามารถพัฒนาประเทศได้ ส่วน ส.ส. คนเดิม หากลงเลือกตั้งในเขตประเวศอีกก็คงไม่เลือก
"ครั้งนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าใครเป็นยังไง ประชาชนเลือกคุณแล้ว คุณกลับหักหลังแบบนี้ เศรษฐกิจบ้านเมืองก็แย่" เธอระบุ
ส่วนประชาชนในวัยกลางคนอีกคนในเขตประเวศ ก็ "รู้สึกผิดหวัง"เช่นกัน
"เดิมทีที่เลือกเขา เลือกเพราะเป็นพรรคอนาคตใหม่ ชอบที่พรรค ที่นโยบายของคนรุ่นใหม่ แล้วเราไม่รู้จักตัว ส.ส. ไง เราเชื่อมั่นในหัวพรรค ในอุดมการณ์ เราก็เลยเลือก แล้วสุดท้าย พอเขาเข้าไปได้แล้ว เขาเปลี่ยนเฉยๆ ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม เราก็รู้สึกเหมือนกับโดนหักหลัง"
ถ้า ส.ส. คนนี้ กลับมาลงเลือกตั้งในเขตจะเลือกอีกหรือไม่ ประชาชนคนดังกล่าวตอบทันทีว่า "ไม่เลือกแน่นอน คนแบบนี้ เราเลือกตามนโยบาย"
ส่วนถ้าแกนนำพรรคมีการย้ายพรรคใหม่ ภายใต้อุดมการณ์เดิม ยังจะเลือกหรือไม่นั้น เธอกล่าวว่า "เลือกค่ะ มันอยู่ที่แนวทางประชาธิปไตย ที่เราชอบค่ะ"
ถัดมาที่เขตใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นพื้นที่ของ นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กทม. เขต 21 บางนา, พระโขนง อดีตพรรคอนาคตใหม่ ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 35,702 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคพลังประชารัฐ 28,994 คะแนน แม้ช่วงแรกจะมีกระแสข่าวว่า 'สมเกียรติ' จะย้ายเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย แต่เวลาต่อมาได้ออกแถลงแก้ข่าวขออยู่ร่วมกับฝ่ายค้านตามเดิม
ชายวัยกลางคน ในเขต 21 ที่ตัดสินใจเลือกพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า "ถ้ามีการย้ายจริงๆ เหมือนเสียความไว้วางใจไปส่วนหนึ่ง ในเมื่อเราเลือกพรรคอนาคตใหม่ ที่นโยบาย สมมติเขาย้ายไป ก็เหมือนนำความเชื่อใจ ที่เรามีให้ มันสูญเปล่า ดิสเครดิตทั้งตัวเขา และพรรคอนาคตใหม่ ที่ไม่มีความมั่นคงในจุดยืนของตัวเอง"
ถ้า ส.ส. คนนี้ กลับมาลงเลือกตั้งในเขตจะเลือกอีกหรือไม่นั้น ก็คงต้องดูอีกที
เมื่อถามว่าถ้าแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่มีการย้ายพรรคใหม่ ภายใต้อุดมการณ์เดิม ยังจะเลือกหรือไม่? ชายคนเดิมบอกว่า "ยังจะเลือกเหมือนเดิมครับ แต่ว่าในอุดมการร์ที่ยังคงเป็นพรรคอนาคตใหม่เหมือนเดิม ที่เขาสานต่อเจตนารมณ์ ถ้ายังทำเพื่อคนรุ่นใหม่เหมือนเดิม ทำเพื่อคนในเจนเนอร์เรชั่นต่อไป ผมก็จะเลือกแบบนั้น"
ส่วนประชาชนอีกรายในเขตพื้นที่นี้ ระบุว่า เธอ "รู้สึกเสียใจ" เนื่องจาก นโยบายที่เขาพูดขึ้นมา ดีทุกอย่าง ถ้าเขาย้ายไปฝั่งรัฐบาลมันไปต่อไม่ได้ ถ้าเขาไปทำจุดนั้น ผลจะเหมือนที่เขาออกมาพูดหรือไม่
ถ้า ส.ส. คนนี้ กลับมาลงเลือกตั้งในเขตจะเลือกอีกหรือไม่? "ถ้าอยู่ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านอาจจะเลือก แต่ของรัฐบาลไม่เลือกค่ะ"
และเธอก็ยืนยันด้วยว่าจะยังเลือก ส.ส.ของอดีตพรรคอนาคตใหม่เช่นเดิมหากมีการย้ายเข้าสังกัดพรรคใหม่ในอนาคต
อีกฝากฝั่งหนึ่งของพื้นที่กรุงเทพมหานคร พื้นที่ของ นายโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ส.ส.กรุงเทพฯ เขต 23 จอมทอง, ธนบุรี (เฉพาะแขวงดาวคะนอง แขวงบุคคโล และแขวงสำเหร่) อดีตพรรคอนาคตใหม่ ชนะไปด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง 27,651 คะแนน ส่วนอันดับสองเป็นพรรคพลังประชารัฐ 26,015 คะแนน
ชายวัยกลางคนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ ในเขตจอมทอง ระบุว่า "เห็นในข่าว สำหรับความรู้สึก เหมือนเขาหักหลังประชาชนในเขต เหตุผลที่เลือกตอนแรก ก็เพราะธนาธร กับทีมงาน ในพื้นที่เอาจริงๆ ไม่รู้จักเขาเลย รู้สึกผิดหวัง ถ้าเขามาลงเลือกตั้งใหม่เลือกไหม สำหรับผม คงครั้งเดียว"
ส่วนถ้าแกนนำพรรคอนาคตใหม่มีการย้ายพรรคใหม่ ภายใต้อุดมการณ์เดิม ยังจะเลือกหรือไม่นั้น อาจจะต้องขอดูทิศทางนโยบายของพรรคการเมืองภายใต้หัวใหม่อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
