ไม่พบผลการค้นหา
"วิวัฒน์ชัย อัตถากร" ชี้ รัฐบาลสืบทอดอำนาจ คสช.สร้างทุนนิยมประชารัฐผูกขาด ไม่นำมาสู่ความยั่งยืนแต่จะนำไทยสู่หายนะทางเศรษฐกิจ

กลุ่ม Social Democracy สังคมนิยมประชาธิปไตย จัดกลุ่มศึกษาวงย่อย Think Tank 2019 เสวนาโต๊ะกลมเชิงลึกวิเคราะห์เศรษฐกิจ "ระบบทุนนิยมประชารัฐ" ที่ห้อง 502 ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร นำเสนอโดย รศ. วิวัฒน์ชัย อัตถากร นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร

รศ.วิวัฒน์ชัย ระบุว่าการนำเสนอมุ่งชี้ให้ผู้ร่วมกลุ่มศึกษาเห็นถึงแนวทางเศรษฐกิจภายใต้รัฐบาลปัจจุบันที่ต่อยอดมาแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) ว่าจะไม่นำมาซึ่งเศรษฐกิจแบบยั่งยืน และแม้ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกจะเป็นแบบทุนนิยม แต่มีทั้งทุนนิยมเสรี ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและมิติทางสังคมหรือผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ และทุนแบบผูกขาด ที่ประโยชน์จากโครงสร้างและระบบเศรษฐกิจตกแก่กลุ่มทุนขนาดใหญ่เท่านั้น

รศ.วิวัฒน์ชัย ยืนยันว่าทุนนิยมในไทยโดยเฉพาะนับแต่ยุค คสช.เป็นต้นมาเป็น "ทุนนิยมแปลงพันธุ์" และมีความอีเหละเขะขะ ผ่านลูกเล่นเชิงนโยบายภาครัฐต่างๆ อีกทั้งคำว่า "ประชารัฐ" ไม่ใช่แค่วาทกรรมติดหูหรือให้ฟังดูมีแง่บวกและให้นึกถึงรัฐบาลเท่านั้น แต่เป็นระบบเศรษฐกิจที่ถูกสถาปนาขึ้นอย่างจงใจและมีวาระซ่อนเร้น โดยรัฐบาล คสช.ที่ต่อเนื่องมาสู่รัฐบาลปัจจุบัน

โดยระบบเศรษฐกิจ "ทุนนิยมประชารัฐผูกขาด" นี้ คือ ระบบเศรษฐกิจที่มีขุนศึกหรือนายทหารและกลุ่มทุนผูกขาดอยู่เบื้องหลัง ผ่านรัฐราชการรวมศูนย์ ออกแบบกฎหมาย และกลไกต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มตนซึ่งเป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าจะนำสู่ "วิกฤตแบบฉับพลัน" โดยไม่ทันตั้งตัวในอนาคต โดยเฉพาะจากหนี้สาธารณะและความเหลื่อมล้ำในสังคม 

สำหรับระบบเศรษฐกิจทุนนิยมที่นำมาสู่ความยั่งยืนนั้น ประโยชน์สูงสุดต้องตกอยู่กับประชาชนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการลงทุนกับนโยบายสาธารณะและคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างการจ้างงาน อย่างในหลายประเทศในยุโรป ที่สำคัญ การตัดสินใจเชิงนโยบายต้องมาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งจะเป็นผู้แบกรับหายนะหากมีวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้นด้วย ซึ่งอำนาจและนโยบายทางการเมืองต้องยึดโยงกับประชาชน จึงจะสร้างเศรษฐกิจที่เห็นแก่มนุษย์ทั่วไป ไม่ใช่ระบบทุนที่เห็นแก่เงิน หรือผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มที่มีอำนาจผูกขาดทั้งทางเศรษฐกิจและทางการเมืองเท่านั้น

เอื้อทุนใหญ่โกยผลประโยชน์ 

นายเมธา มาศขาว ผู้ประสานงานกลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย ระบุว่า ทางกลุ่มมีกิจกรรม think Tank เป็นกลุ่มศึกษาต่อเนื่อง มุ่งทำความเข้าใจระบบเศรษฐกิจทุนนิยมประชารัฐ ซึ่งทางกลุ่มเห็นว่า นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล คสช.ต่อเนื่องมาถึงชุดปัจจุบัน เอื้อโยชน์ต่อกลุ่มทุนผูกขาดในโครงการประชารัฐทั้งสิ้น รวมถึงนโยบายระยะสั้นต่างๆ ที่เป็นการผันเงินจากภาษีประชาชนหรือเงินภาครัฐ สู่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ในปั้นปลาย ที่สำคัญคือ รัฐบาลโอบอุ้มกลุ่มทุนใหญ่ในเครือข่ายผู้มีอำนาจ ทั้งผ่านการประมูลงานภาครัฐและโครงการขนาดใหญ่ มีการลดหย่อนภาษีและมีเงื่อนไขพิเศษมากมาย ตลอดจนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ขณะที่ละเลยมิติทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสิ้นเชิง

นายเมธา ยืนยันว่า ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมเสรีต้องมีความเป็นธรรม หรือต้อง "แฟร์ไม่ใช่ฟรี" อย่างเดียว และ สามารถนำสู่การสร้างรัฐสวัสดิการซึ่งต้องมีการเก็บภาษีอัตราก้าวหน้าได้ โดยรัฐต้องสร้างเศรษฐกิจแบบผสมผสานและเข้าไป จัดการหรือแทรกแซงไม่ให้มีการผูกขาดโดยกลุ่มทุนใดๆ และปล่อยให้มีการแข่งขัน ในระบบเศรษฐกิจอย่างเสรีและเป็นธรรม