นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน อภิปรายว่า นายกฯ บอกว่าไม่มีรัฐบาลไหนแจกเงินประชาชนขนาดนี้ ซึ่งเรากำลังสร้างค่านิยมที่ผิด เพราะรัฐบาลทำให้เขาจนถึงต้องแจกเงิน ถือเป็นปมด้อยที่ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโอ้อวดกัน หากถามว่าวันนี้สมควรต้องกู้เงินหรือไม่นั้น สมควรกู้ แต่รัฐบาลต้องนับเงินในกระเป๋าก่อน เกลี่ยงบปี 2563 ก่อนได้หรือไม่แล้วค่อยกู้ อาจไม่ต้องกู้ถึง 1 ล้านล้านบาทก็ได้
นอกจากนี้ หนี้ของการบินไทย 1.7 แสนล้านบาทที่วันนี้ยื่นเข้าสู่กระบวนการล้มละลายนั้น ถ้าเบี้ยวหนี้เขา เรตติ้งประเทศไทยจะตกวูบทันที จะทำให้กู้เงินต่างประเทศไม่ได้ หากกู้ในประเทศโดยการออกพันบัตรเราไม่ทิ้งกันที่ให้ดอกเบี้ย 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าตลาด 3 เท่า เศรษฐีพากันไปซื้อพันธบัตร ยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำ
ตนจึงขอเพิ่มเติมว่านายกฯ เป็นนักกู้แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา และบิดาแห่งความเหลื่อมล้ำ
นายสุทิน กล่าวอีกว่า วันนี้มีสัญญาณว่านายกฯ จะรู้ไม่ทันนักลงทุน เพราะล่าสุดสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้มีกลุ่มทุนใหญ่ในไทยระดมเงินไปฝากธนาคารร่วม 8 แสนล้านบาท จึงเกรงว่ากำลังจะสร้างตำนานล้มบนฟูกรอบใหม่ โดยทำเป็นการแกล้งจน เป็นห่วงว่า นายกฯ จะรู้ไม่ทันนักลงทุน
ทั้งนี้ ตนไม่เชื่อว่าการกู้เงินครั้งนี้รัฐบาลต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่เพียงต้องการที่จะหมุนเงินเร็วๆ ซึ่งถือว่าใจร้ายมาก เพราะรัฐบาลเลี้ยงไข้ไว้พอๆ กับอายุรัฐบาล เมื่อสมัยหน้าใครมาเป็นรัฐบาล ก็เท่ากับมาอุ้มศพคนไข้พอดี ใช่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากการกู้เงินครั้งนี้กู้มาเพื่อรักษาโควิด-19 นั้นรับได้ แต่ถ้ากู้มาเพื่อใช้หนี้เก่า มาจัดงานวันเกิด คือเกิดทุจริต แจกจ่ายพรรคพวกนั้นท่านทำได้อย่างไร เพราะตนรู้ทันว่า การที่ยังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินเอาไว้นั้น เพราะจะเป็นการเปิดทางให้การจัดซื้อจัดจ้างที่มีการประมูลงานเกิน 5 แสนบาท ไม่ต้องใช้วิธีประกวดราคาแบบอี-บิดดิ้ง ใช่หรือไม่ ซึ่งการทำงานของฝ่ายค้านถือว่าน่าเห็นใจ ถ้าค้านมากก็ถูกด่า ถ้าเห็นด้วยกับรัฐบาลก็ถูกหาว่าซูเอี๋ย นอกจากนี้ยังถูกปล่อยข่าวว่าจะไปร่วมรัฐบาล ถูกเอากล้วยมาหลอกลิงของฝ่ายค้านไปแล้วไม่รู้กี่ตัวอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม