ไม่พบผลการค้นหา
พี่สาว 'วันเฉลิม' ร่วมจุดเทียนกิจกรรม หนึ่งเดือนกับการแสวงหาความจริง หวังเห็นน้องชายได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมตั้งทนายกัมพูชาให้ดำเนินการตามกฎหมาย ด้านแอมเนสตี้ ออกแถลงการณ์จี้ 'ฮุนเซน' เร่งสอบสวนโดยด่วน โปร่งใสรอบด้าน

วันที่ 4 ก.ค. ที่สวนครูองุ่น ซ.ทองหล่อ 3 กรุงเทพฯ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จัดกิจกรรม "หนึ่งเดือนกับการแสวงหาความจริง #saveวันเฉลิม" โดยกิจกรรมเริ่มต้นจากการแสดงดนตรี ที่มีเนื้อหาสาระสะท้อนไปถึงผู้มีอำนาจโดยเฉพาะในแง่ของการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ รวมถึงสิทธิมนุษยชนโดยวงสามัญชน 

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ฯ แสดงความกังวลที่สำคัญ กรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมชาวไทยวัย 37 ปีหายตัวไปในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 เวลาประมาณ 16.30 น.

วันเฉลืม

โดยขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ดำเนินการตามมาตรการทั้งปวงที่จำเป็นเพื่อประกันให้มีการสอบสวนอย่างมีประสิทธิภาพเร่งด่วน รอบด้าน และโปร่งใสต่อข้อกล่าวหาว่ามีการลักพาตัว นายวันเฉลิม และแจ้งให้ครอบครัวทราบถึงการดำเนินการทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน และให้นำตัวผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้เข้าสู่การพิจารณาคดีที่เป็นธรรมโดยศาลพลเรือนแบบปกติและไม่ให้ใช้โทษประหารกับเขา ให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลสูญหาย ซึ่งกัมพูชาเป็นรัฐภาคีในอนุสัญญาดังกล่าว และต้องไม่ส่งตัววันเฉลิมกลับประเทศไทยเพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีของท่านที่จะต้องไม่เข้าร่วมในการบังคับ ส่งกลับบุคคลไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงว่าจะถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

ภายหลังอ่านแถลงการณ์ เป็นการฉายภาพยนตร์สารคดี "ไกลบ้าน" ที่เรื่องราวได้ถ่ายทอดบุคคลที่ได้รับผลกระทบ จนนำไปสู่การอุ้มหาย การสูญเสียเพียงแค่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจ

วันเฉลืม

การรอคอยของครอบครัวผู้ถูกอุ้มหาย

จากนั้น น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ตัวแทนครอบครัวนายวันเฉลิม อ่านแถลงการณ์ แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทย คณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษชน สภาผู้แทนราษฎร สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระกรวงยุติธรรม และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่ได้ช่วยดำเนินการทางกฎหมายและตามหานายวันฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พวกเราขอขอบคุณพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยที่ได้ออกแถลงการณ์ รวมถึงการนำเสนอเรื่องดัง กล่าวในที่ประชุมรัฐสภาไทย พวกเราขอแสดงความขอบคุณ อย่างสูงต่อรัฐสภายุโรป ที่ได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อชะตากรรมของนายวันเฉลิม 

โดยออกแถลงการณ์เพื่อให้ไทยและกัมพูชาดำเนินการสอบสวบกรณีนี้อย่างจริงจัง พวกเราขอแสดงความขอบคุณอย่างสูงต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การ สหประชาชาติ (OHCHR) คณะกรรมาธิการ Enforced Disappearances (CED) องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์, องค์กร FORSEA สมาชิกรัฐสภาอาเซียน แอมเนสตื้ อินเตอร์เนชั่นแนล รวมไปถึงศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ได้ดำเนินการทางกฎหมายทุกด้านและช่วยเหลือในการตามหานายวันเฉลิม

พวกเราขอแสดงความขอบคุณต่อสื่อสารมวลชนทุกแขนงที่ให้ความเมตตาช่วยกันสื่อสารและ นำเสนอข้อมูลทำให้เรื่องราวของนายวันเฉลิมได้ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะด้วยข้อเท็จจริง ท้ายที่สุดครอบครัวของเรา ขอขอบคุณเพื่อนวันเฉลิมทุกคน นิสิต นักศึกษา ประชาชนที่ร่วมกัน ออกมาเรียกร้อง รวมไปถึงทุกท่านที่แสดงความเป็นห่วง เป็นใย ผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเราเอ่ยนามได้ไม่หมด

ความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายที่ได้รับในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาทำให้ครอบครัวรับรู้ได้ว่า นายวันเฉลิมนั้น เป็นที่รักของใครต่อใครหลายๆคน รวมทั้งทำให้ครอบครัวตระหนักได้ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของวันเฉลิม เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน ที่เกี่ยวข้องกับทุกคน ซึ่งเป็นที่ทราบว่า วันเฉลิมถูกอุ้มหายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2563 บัดนี้ครบ 30วัน

วันเฉลืม

การอุ้มหายคือสร้างความหวาดกลัว

โดยทางครอบครัวได้ประสานงานไปยังบุคคล และหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย และช่องทางอื่นๆ เพื่อตามหาวันเฉลิม ล่าสุดทางครอบครัวได้แต่งตั้งทนายความที่กัมพูชาเพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายกับพูชาอีกทางหนึ่ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางการกัมพูชาจะให้ความร่วมมือด้วยดีในการสอบสวนอย่างจริงจัง เพื่อนำตัวนายวันเฉลิมกลับมาอย่างปลอดภัย และทำความจริงให้ปรากฎ ว่าอะไรคือมูลเหตุของการอุ้มหาย ใครเป็นผู้กระทำ และนำตัวคนผิดมาลงโทษ ตามกระบวนการยุติธรรม

การอุ้มหายสร้างความหวาดกลัวให้แก่ทุกคน เหตุการณ์ดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ และที่ใดก็ได้ ทางครอบครัวหวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับวันเฉลิมจะเป็นการอุ้มหายครั้งสุดท้าย

การอุ้มหายเคยเกิดขึ้นกับผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยก่อนหน้านี้ จำนวน 8 คน นายวันเฉลิมเป็นเหยื่อรายที่ 9 ที่ถูกอุ้มหาย ขณะที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นสามารถพบศพได้เพียง 2 รายเท่านั้น ซึ่ง

สภาพศพแสดงให้เห็นว่าถูกกระทำอย่างโหดร้ายเหลือเกิน อย่างไรก็ดี ทางครอบครัวของเรายังตั้งความหวังว่าผู้ก่อเหตุ รวมถึงผู้สั่งการจะมีความเมตตาต่อวัน เฉลิมและปล่อยตัวเขาให้กลับคืนสู่อ้อมอกคนในครอบครัวและคนที่รักเขา ทางครอบครัวขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย องค์กรนานาชาติ และทุกคนทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจ ดำเนินการตามหาตัววันฉลิมอย่างไม่ลดละ และทำความจริงให้ปรากฎ พวกเราขอเป็นกำลังใจ และเป็นแนวร่วมให้กับทุกคนทุกฝ่ายที่เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม และขอให้การเรียกร้องด้านสิทธิมนุษยชนครั้งนี้ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกิดหลักประกันไม่ให้

เกิดการอุ้มหายขึ้นอีก นอกจากนี้พี่สาวนายวันเฉลิมอย่างเปิดเผยด้วยว่าได้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะรับ คดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษหรือไม่โดยจะทราบผลภายใน 15 วันซึ่งถือเป็นความหวังสุดท้ายของกระบวนการในประเทศไทย เพราะก่อนหน้านี้ ยังไม่พบความคืบหน้าจากหน่วยงานใดๆ

ทั้งนี้ หลังอ่านแถลงการณ์แล้วเสร็จ ผู้เข้าร่วมงาน ได้ร่วมกันจุดเทียนแห่งความหวัง แสดงสัญลักษณ์แห่งศรัทธา เพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อสื่อสารถึงผู้มีอำนาจ เรียกร้องการเปิดพื้นที่ ให้ยอมรับในสิ่งที่เห็นต่างจากผู้มีอำนาจ และไม่ให้เกิดการอุ้มหายการทำให้สูญหายเกิดขึ้นอีกต่อไป

วันเฉลืม


อ่านเพิ่มเติม