ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ใหญ่ 46.6 ล้านคนในสหรัฐฯ กำลังประสบกับภาวะด้านสุขภาพจิตโดยเฉพาะโรควิตกกังวล ขณะที่เด็กรุ่นใหม่มากกว่า 50% ลาออกจากงานเพราะปัญหาสุขภาพจิต

ผลสำรวจผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปจำนวน 1,500 คนขององค์กรเอกชน Mind share Partner ระบุว่าครึ่งหนึ่งของคนยุคมิลเลนเนียล (23-38 ปี)และ 75 เปอร์เซ็นต์ของเด็กเจน Z (อายุ 18-22 ปี) ต่างลาออกจากงาน เนื่องจากเหตุผลทางด้านสุขภาพจิต ขณะที่ผู้ที่เกิดในยุคเบบี้บูมเมอร์ (55-73 ปี) เป็นกลุ่มคนที่ลาออกจากงานด้วยปัญหาเรื่องสุขภาพจิตที่น้อยที่สุด

นอกจากนี้ในการสำรวจพบว่า 61 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า ปัญหาสุขภาพจิตมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และอีก 37 เปอร์เซ็นต์ระบุว่า สภาพแวดล้อมในที่ทำงานส่งผลอารมณ์ของพวกเขา

เคลลี่ กรีนวู้ด ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Mind share Partner กล่าวว่า 'เด็กรุ่นใหม่นั้นตระหนักถึงปัญหาทางด้านสุขภาพจิตมากกว่าคนรุ่นก่อน'

ในรายงานยังระบุว่า สำหรับเด็กยุคมิลเลนเนียลแล้ว 'เงินและสถานที่ทำงาน' เป็นสาเหตุที่ใหญ่ที่สุดที่ก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งเด็กยุคมิลเลนเนียลนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นโรควิตกกังวลมากกว่าคนยุคเบบี้บูมเมอร์ถึง 3 เท่า และเด็กเจน Z มีแนวโน้มมากกว่าถึง 4 เท่า

ผลสำรวจยังระบุว่า 63 เปอร์เซ็นต์ของเด็กยุคมิลเลนเนียลนั้นต่างมองหาสถานที่ทำงานที่มีการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตใจ หรือการอบรมเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาวะเรื่องจิตใจมากกว่าคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์

ตามรายงานของสถาบันสุขภาพจิตของสหรัฐฯ ระบุว่า ประชากรที่เป็นผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ กว่า 46.6 ล้านคนกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตอย่างเช่น โรควิตกกังวล เป็นต้น 

ที่มา CNBC