คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากการลงพื้นที่ประชาชนให้การต้อนรับสนับสนุน แต่ปัญหาหลักของประชาชนมีอยู่ 3 ข้อ คือ ปัญหาเศรษฐกิจ, หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า, และระบบสาธารณูปโภค ขณะเดียวกันปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากความพร้อมภายในประเทศ เช่น แรงงาน, อุตสาหกรรม, และเทคโนโลยี ที่หยุดการพัฒนาไปในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา, การส่งออกที่ลดลง และการท่องเที่ยวซบเซาเนื่องจากการบริหารงานและแก้ปัญหานักท่องเที่ยวอย่างไม่มืออาชีพ ประกอบกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะแก้ไขด้วยการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ให้สามารถพึ่งพาตัวเองได้ เพิ่มศักยภาพคนตัวเล็ก คือ เด็กจบใหม่ SMEs และเกษตรกร ให้มีรายได้ มีกำลังซื้อ และนำเม็ดเงินกลับเข้ามาหมุนเวียนในตลาด และขับเคลื่อนตัวเองได้อย่างยั่งยืน
ส่วนการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเหลือเวลาหาเสียงเพียงแค่ 52 วัน พรรคเพื่อไทยพร้อมทุกสถานการณ์ ขอแค่กำหนดวันออกมาให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตามคุณหญิงสุดารัตน์ยอมรับว่า กติกาการเลือกตั้งแบบใหม่ไม่เอื้อให้มีพรรคการเมืองเสียงข้างมากเหมือนในอดีตและลดเขตเลือกตั้งลง อดีต ส.ส. หลายคนจึงต้องย้ายไปลงสมัครรับเลือกตั้งพรรคการเมืองอื่น แต่ตนถือว่า ผู้สมัคร ส.ส. คนใดย้ายพรรคไปอยู่ฝั่งประชาธิปไตยและไม่สนับสนุน คสช. ถือว่าเป็นมิตรกับพรรคเพื่อไทยและ หากในเขตนั้นๆ พรรคหาคนลงสมัครไม่ทัน แต่มีผู้สมัครจากพรรคฝั่งประชาธิปไตย ก็ไม่เป็นไร ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยจะพยายามส่งผู้สมัคร ส.ส. ให้ได้มากที่สุด แต่จะจำนวนเท่าไหร่จะแจ้งอีกครั้งในวันเปิดตัวผู้สมัคร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ หรือแบบแบ่งเขต คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่า ตนเคยเป็น ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 12 แต่ปัจจุบันแยกออกเป็น 13 เขต ส่วนตัวอยากลงทุกเขต แต่ต้องมาทำงานภาพรวมนำทัพเลือกตั้งของพรรค