ไม่พบผลการค้นหา
ชาวเชียงใหม่ เปิดลานท่าแพ จัดเวทีคู่ขนานชุมนุม 19 ก.ย.ที่ท่าพระจันทร์ ขับไล่รัฐบาล ท่ามกลางฝน พร้อมเผาปลา 50 ตัว กินประชดรัฐบาลปลาเผา ส่วนคณะก้าวหน้าสกลนคร จัดชุมนุมคู่ขนานกับที่สนามหลวง

บรรยากาศการชุมนุมคู่ขนานที่บริเวณลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเย็นวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มแกนนำศิลปินปลดแอกเชียงใหม่ จัดการชุมนุมเวทีคู่ขนานกับกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่ได้มีการจัดชุมนุมครั้งใหญ่ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยกิจกรรมในครั้งนี้โดยใช้ชื่อกิจกรรมว่า 'รัฐปลาเผา' ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้ให้การดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด

โดยทางด้านแกนนำให้เปิดเผยว่า การรวมตัวกันจัดกิจกรรม เป็นการแสดงออกทางศิลปวัฒนธรรม ซึ่งกิจกรรมในทั้งหมดจะเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์ ไม่ใช่การก่อม็อบ เป็นการสร้างพื้นที่ให้ศิลปินได้มาแสดงความคิดเห็นผ่านทางศิลปะ เพื่อให้เข้าถึงประชาชน ทั้งการจัด อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกลางวงเวียนรัฐปลาเผา การแสดง Animal Farm ฉบับประเทศไทย และงานศิลปะอื่นๆ อีกมากมาย โดยไฮไลท์ของงานคือการรวมกันทำปลาเผาจำนวน 50 ตัว มารับประทานร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการแสดงออกที่มีการเสียดสีทางการเมือง เนื่องจากคำว่ารัฐปลาเผา เป็นการเล่นคำมาจากคำว่ารัฐประหาร ประชาชนเหมือนปลาเผาที่ถูกห่อฟลอยด์เอาไว้ ให้อยู่ในความมืดมิดรอวันตายนั่นเอง

อย่างไรก็ตามตลอดช่วงของการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีสายฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องยืนร่วมกิจกรรม โดยหาเสื้อกันฝน และร่มมากันฝน ซึ่งฝนที่ตกลงมาก็เป็นอีกอุปสรรคที่ครั้งนี้มีคนมาร่วมกิจกรรมน้อยกว่าทุกครั้ง ทั้งนี้มีทั้งทหาร และตำรวจ ในและนอกเครื่องแบบมาร่วมสังเกตุการณ์ บันทึกภาพและเก็บข้อมูลด้วยเช่นกัน

คณะก้าวหน้าสกลนครจัดเวทีปราศรัยคู่ขนานชุมนุมธรรมศาสตร์สนามหลวง 

ที่ถนนอุฬารกุล บริเวณ บขส.2 สกลนคร เขตเทศบาลนครสกลนคร ตั้งแต่เวลา 14.00 น. มีการจัดเวทีคู่ขนานการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ ของคณะก้าวหน้าสกลนคร ในหัวข้อ '19 กันยายน ทวงคืนอำนาจคืนราษฎร' มีประชาชนหลากหลายช่วงวัยอายุจำนวนหนึ่ง เข้าร่วมรับฟัง โดยบรรยากาศของกิจกรรมมีการถ่ายทอดสดการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์และสนามหลวง นำป้ายบุคคลถูกบังคับสูญหายจากอำนาจรัฐไทยมาติดประกาศให้รำลึกถึงเหตุการณ์ลิดรอนสิทธิและนักต่อสู้ทางการเมืองที่เห็นต่างตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน 

การปราศรัยสิทธิความเท่าเทียมกันของพลเมือง เรียกร้องประชาธิปไตยเต็มใบไม่สอดไส้เผด็จการ และปราศรัยในประเด็นคู่ขนานกับการชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ สลับการร้องเพลงจากศิลปินรับเชิญร่วมร้องเพลงที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศของรัฐบาล และการปราศรัยจากนักพูดหลายคนทั้งนักวิชาการ นักเรียน นักศึกษา นักการเมืองท้องถิ่น จากนครพนม เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ พร้อมส่งกำลังใจไปให้ผู้ที่ไปชุมนุม ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสนามหลวง ขณะที่ผู้มาร่วมรับฟังทยอยเดินทางเข้ามาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้เวทีดังกล่าวปกติจะจัดกลางแจ้ง แต่เนื่องจากยังคงมีฝนตกอยู่จากอิทธิพลพายุโนอึลจึงต้องเข้ามาจัดในร่มแทน โดยมีเจ้าหน้าที่จากภาครัฐร่วมสังเกตการณ์โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย