วันที่ 23 มิ.ย. 2566 อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ตนและ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จะเดินทางไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพื่อรับหนังสือรับรอง ก่อนที่จะเดินทางไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 โดยในวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน จะมีการประชุมกับ ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยครั้งแรก
ส่วนในที่ประชุม ส.ส.ของพรรคจะมีมติการลงให้โหวตเลือกประ ธานสภาฯเลยหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า มันไม่ได้เป็นวาระที่บรรจุ เป็นการพบกันก่อนของ ส.ส. ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ทั้งหมดจะมาเจอกัน อย่างพร้อมเพียง
ส่วนกระแสข่าวขั้วรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อคนจากพรรคเพื่อไทย ชิงประธานสภาฯแข่งพรรคก้าวไกล อนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับการประสาน ส่วนพรรคภูมิใจไทยจะมีมติอย่างไร ตนขอยืนยันว่ายังเหมือนเดิม ให้เป็นไปตามกติกาประชาธิปไตย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามีการเสนอชื่อ 2 คน พรรคภูมิใจไทยจะมีมติอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า ค่อยว่ากัน
อนุทิน ยังปฏิเสธไม่ทราบถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และขณะนี้ก็เดินทางไปยังประเทศอังกฤษด้วย เพราะยังไม่ได้คุยกันเลยในส่วนของหัวหน้าพรรคขั้วรัฐบาลเดิม ยังไม่ถึงเวลาคุย จะได้พบกันอีกทีก็คงวันเปิดสภาฯ ในวันที่ 3 กรกฎาคม
ส่วนที่มีการจับจ้องไปที่พรรคภูมิใจไทยว่า จะเป็นตัวแปรในการจัดตั้งรัฐบาล อนุทิน หัวเราะก่อนที่จะบอกว่า จ้องทุกทีเลย ไม่ต้องจ้องหรอกครับ พรรคภูมิใจไทยทำตามมารยาททางการเมือง และหลังจากการเลือกตั้งจะถึงวันนี้ ก็ทำตามที่พูดไว้ตลอด
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แต่ในทางการเมืองถ้ามีการเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วมรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วม อนุทิน กล่าวด้วยเสียงค่อยว่า ยังไม่มี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า ถ้ามีล่ะ อนุทิน แย้งขึ้นในทันทีว่า จะมีได้อย่างไร เพราะหลังการเลือกตั้งผู้สื่อข่าวก็ได้ไปสอบถามแกนนำจะต้องรัฐบาล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งก็มีการตอบชัดเจนว่าไม่จำเป็นต้องมีการใช้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากนั้นเลย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า แล้วกระแสข่าวการดีลกับ เนวิน ชิดชอบ ออกมาได้อย่างไร อนุทิน ย้อนกลับว่า ขอให้ไปถามคนที่พูด
เมื่อถามอีกว่า ถ้า 8 พรรคร่วมเสนอชื่อประธานสภา 2 คน ขณะที่ อนุทิน ยืนยันว่าให้พรรคอันดับหนึ่งดำเนินการ แล้วพรรคภูมิใจไทยจะตัดสินใจอย่างไร อนุทินกล่าวว่าตอนนี้อย่าเพิ่งไป If (ถ้า) มัน Ifได้หมด รู้แต่ว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับหนังสือรับรองพร้อมกับเพื่อนสมาชิกที่กกต. นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ
เมื่อถามว่า แสดงว่าการเมือง ในอนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาหากมองจากสถานการณ์ขณะนี้ อนุทิน กล่าวย้ำว่า การเมือง (ถึง 3 ครั้ง) ทุกอย่างอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์ประเทศ กับประชาชน ทั้งเลือกภูมิใจไทยและไม่เลือก นั่นคือทิศทางที่ปรับภูมิใจไทยจะพิจารณา ไปในแนวทางนั้น ก็ทำแบบนี้มาตลอด ไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนที่จะกล่าวพร้อมหัวเราะว่า ทำมาแล้ว ทำอยู่ ทำต่อไป
เมื่อถามถึงคุณสมบัติของประธานสภาฯ ควรจะเป็นผู้ที่มีความรู้หรือเป็นเด็กใหม่ ที่มีความรู้ด้านกฎหมาย อนุทิน กล่าวว่า เดี๋ยวขอดูแคนดิเดตก่อน ยังไม่ทราบเลยใครเป็น แคนดิเดต พร้อมย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยรักษามารยาทอย่างไม่ได้มองใครในพรรคของเรา เพราะเราต้องมีมารยาททางการเมืองอย่างที่บอก และทุกอย่างควรเป็นไปตามปฏิทินทางการเมือง เหมือนกันรับรองผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาใช้เวลาถึง 60 วันแต่เมื่อถึงเวลาการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ใช้เวลาเพียงเดือนเศษในการประกาศรับรอง ส.ส.ได้ ถือว่าเป็นการทำงานแบบมีประสิทธิภาพ ทำให้การขับเคลื่อนกระบวนการทางรัฐสภา การฟอร์มรัฐบาล เกิดขึ้นโดยไม่มีการขาดช่วง ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ควรให้ความร่วมมือทุกทาง
เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์ปัจจุบันจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า จากการเลือกตั้งจนถึงวันนี้มัน so far so good จนถึงขนาดนี้หลายเรื่องทำได้ดีขึ้นต้องชื่นชม กกต. ซึ่งตนก็ดีใจนั่งลุ้นว่าเมื่อไหร่จะได้ใบรายงานตัวที่สภาฯ
และเมื่อผู้สื่อข่าวเก็บของถึงการเก็บของออกจากห้องทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เข้าไปในห้อง มีกล่องไม้จิ้มฟันอันเดียว ยังใช้ไม่หมดเลย อย่างอื่นไม่มี มีแต่ของหลวง และเมื่อขึ้นรถ อนุทินยังหันมาพูดหยอกล้อกับผู้สื่อข่าวว่า เอาไหมไม้จิ้มฟันอ่ะ ใครจะเอา