ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการพรรคประชาชาติ เผยรู้สึกกังวลในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ชี้ การเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมคือการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการก่ออาชญากรรมต่อประชาชน

พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2562 กรณี คณะกรรมการ กกต. ส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า กกต.จะคำนวณ ส.ส.บัญชีราชชื่อตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 อย่างไร

โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 ว่ากรณีดังกล่าวเป็นหน้าที่และอำนาจของผู้ร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มาตรา 128 ซึ่งต้องกระทำหลังจากมีการประกาศผลการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตแล้ว และข้อเท็จจริงตามคำร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ใช้หน้าที่และอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติ กรณีจึงยังถือไม่ได้ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของผู้ร้องเกิดขึ้นแล้วคำร้องนี้จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 วรรค 1 วงเล็บ 2 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพศ 2561 มาตรา 44 ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้

พันตำรวจเอกทวี ระบุว่า รู้สึกกังวลและขาดความมั่นใจอย่างมากในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. ว่าจะสร้าง “ความเป็นธรรมทางกฎหมาย และความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย” ได้เพียงใด ทั้งนี้เพราะ กกต. เป็นองค์กรอิสระ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม การปฏิบัติหน้าที่ การพิจารณาและมีคำสั่งของ กกต. ต้องถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง กกต. ไม่มีอำนาจในการตีความกฎหมายเพราะไม่ใช่ฝ่ายนิติบัญญัติ ทำได้เพียงวินิจฉัยข้อเท็จจริงกับบทบัญญัติตามลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ในกรณีของกฎหมาย จะต้องยึดหลักการว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมายอื่นที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ด้วย 

ทั้งนี้ การเลือกตั้งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่หนึ่งสิทธิ หนึ่งเสียง มีคุณค่าเท่าเทียมกัน ดังนั้น กกต.จะต้องไม่กระทำการตามอำเภอใจ จะต้องบังคับใช้กฎหมายด้วยความยุติธรรม เป็นไปตามลายลักษณ์อักษร ไม่คลุมเครือแอบแฝง ซึ่งบุคคลทุกคนต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายอย่างเท่าเทียมกันและไม่เอากฎหมายอยู่ในอุ้งมือเป็นสมบัติส่วนบุคคลของกลุ่มใดๆ หรือใช้เป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจในการรักษาและสืบทอดอำนาจ มิเช่นนั้น กกต. จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่สร้าง “ภยันตรายต่อสังคม” และการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมก็คือ การละเมิดสิทธิมนุษยชนและการก่ออาชญากรรมต่อประชาชน นั่นเอง




ข่าวที่เกี่ยวข้อง :