Coco Chanel  ดีไซเนอร์ผู้ให้กำเนิดแบรนด์ Chanel ตัวจริง เธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2514 และเป็นผู้ปฏิวัติโลกแห่งแฟชั่นของหญิงสาวตัวจริง เธอทำได้อย่างไร 

 

"Elegance is not the prerogative of those who have just escaped from adolescence, but of those who have already taken possession of their future."- Coco Chanel

 

มาดามโคโค ชาแนล เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  และก้าวสู่ผู้ปฏิวัติโลกแห่งแฟชั่นของหญิงสาว ไม่ใช่แค่สไตล์เสื้อผ้าเรียบหรู แต่สิ่งที่เธอทำนั้น คือการพลิกความหมายของคำว่า "แฟชั่น"  เธอเปลี่ยนโลกของผู้หญิง สร้างกฎของเธอเอง  ที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง และเป็นแฟชั่นชั้นสูง

 

Time Magazine มอบให้เธอเป็น 1 ใน 100 คน ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 ด้วยความเป็นเฟมินิสต์ที่กล้าลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิให้สตรี  ผ่านการออกแบบเสื้อผ้าของผู้ชาย มาดัดแปลงให้เป็นเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงยุคใหม่  เธอต้องการเปลี่ยนให้ผู้หญิงในยุคนั้น หลุดจากชุดคอร์เซตอันรัดตึง  ที่ทำให้ผู้หญิงหายใจไม่ออก  มาเป็นกางเกง ซึ่งเป็นเสื้อผ้าต้องห้ามสำหรับผู้หญิง ในยุคนั้น  มาสร้างเป็นแฟชั่นในแบบของเธอ 

 

เธอเป็นผู้นำแฟชั่นในยุคนั้นด้วยเปลี่ยนแปลงสไตล์ของตัวเอง ด้วยการตัดผมบ็อบสั้น อาบแดดจนผิวเป็นสีแทน และสวมหมวกเบเรต์

 

เพราะชาแนลเติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  ทำให้เธอได้รับอิทธิพลจากความเรียบง่าย  และโทนสีขรึมๆ ในโทนขาวดำ ของชุดแม่ชี เธอจึงได้แนะนำให้ผู้หญิงได้รู้จักกับเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ดูเก๋ และมีสไตล์  เธอทำให้ผู้หญิงรู้จัก  Little Black Dress และเสื้อคาร์ดิแกนที่สวมใส่สบาย  นอกจากนี้เธอยังทำให้สูททรงตรงและผ้าเจอร์ซี กลายเป็น คอลเล็กชั่นคลาสสิกของเธอ ทั้งยังนำเสนอแฟชั่นเดรสยาวเพียงเข่า  ซึ่งเป็นการเปิดให้เห็นข้อเท้าของผู้หญิงครั้งแรกในยุคนั้น  เป็นแฟชั่นที่ฮิตติดลมบนมาถึงทุกวันนี้

 

ภาพถ่ายของ โคโค่ ชาเนล  พร้อมกับบุหรี่  และยืนหน้ากระจกเงาอันเลื่องชื่อ เป็นแรงบันดาลใจให้มีผลิตภัณฑ์ออกมามากมาย โดยที่ผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องมีสัญลักษณ์ของชาแนล  คือ โลโก้ CC  ,กระเป๋าลายข้าวหลามตัดที่มีโซ่พันสายคล้องไหล่ ,  แจ็กเกตที่มีซับในผ้าไหมพิมพ์ลายชาแนล  หรือกระดุมเหรียญพิมพ์ลายดอก Camillia เป็นต้น

 

โคโค่ ชาเนล  มีชื่อเต็มว่า Gabrielle Bonheur Chanel เกิดในปี ค.ศ. 1883 ที่เมืองเล็กๆ ในฝรั่งเศส ที่ซึ่งห่างไกลจากแฟชั่น ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน มารดาเสียชีวิตตั้งแต่เธออายุได้ 6 ขวบ  ทิ้งเธอและพี่น้องอีก 4 คนไว้กับพ่อ  ซึ่งไม่นานพ่อของเธอก็หายตัวไป เธอถูกส่งไปอยู่ที่ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในแคว้น Auvergne และหาเลี้ยงชีพด้วยการเย็บผ้า

 

เธอเปลี่ยนชื่อเป็น Coco Chanel เมื่อเริ่มต้นอาชีพการเป็นนักร้องในช่วงสั้น ๆ ก่อนมีความสัมพันธ์ในฐานะภรรยาน้อยของนายทหารผู้ร่ำรวย ผู้ที่เป็นรักแรกและเป็นนายทุนให้เธอเปิดร้านขายหมวกแห่งแรกใน Deauville ในปี ค.ศ. 1909

 

กิจการร้านหมวกของเธอได้รับสนับสนุนจาก Arthur ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยชาวอังกฤษ ทำให้กิจการของเธอเติบโตและเป็นที่รู้จัก จาก หมวก  เป็นเสื้อผ้า และก่อตั้งห้องเสื้อ ชาแนล หรือ The House of Chanel  ที่ Deauville ในปี ค.ศ.1913 จากนั้นจึงย้ายไปที่ เลขที่ 31 ถนน Cambon ในปารีสในอีก 1 ปีต่อมา

 

ชีวิตของ โคโค่ ชาแนล ก้าวเข้าสู่การเป็น Mistress ของ Grand Duke Dimitri แห่งรัสเซีย ทำให้เธอออกผลิตภัณฑ์น้ำหอมที่ชื่อ Chanel No. 5 ขึ้นในปี ค.ศ. 1921 ด้วยการวางตำแหน่งของแคมเปญโฆษณาให้เป็น "A very improper perfume for nicely brought up ladies"  ถือเป็นครั้งแรกที่มีการออกน้ำหอมภายใต้ชื่อของดีไซน์เนอร์

 

ความสำเร็จของน้ำหอม Chanel No. 5 ทำให้แบรนด์ของเธอได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ไฮโซในปารีสและลอนดอน

 

ครั้งหนึ่งโคโคเกือบตกลงแต่งงานกับดุ๊คแห่งเวสมินสเตอร์ ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยที่สุดในยุโรปในยุคนั้น แต่เธอกลับปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "There have been several Duchess of Westminster. There is only one Chanel."

 

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปารีสถูกยึดโดยนาซีเยอรมัน ทำให้เธอจำเป็นต้องปิดกิจการและไปทำงานรับใช้ชาติในฐานะพยาบาล แต่แล้วความสัมพันธ์ของเธอกับ Hans Gunther von Dicklage คู่รักซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของนาซี ทำให้ชื่อเสียงของเธอตกต่ำ และถูกเนรเทศจากปารีสเกือบ 15 ปี กว่าที่เธอจะมีโอกาสได้กลับเข้าสู่วงการแฟชั่นอีกครั้งในปีค.ศ. 1954

 

ชาแนลเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1971 เมื่ออายุ 87 ปี ในขณะที่กำลังออกแบบคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิของปีนั้นอยู่

 

จากนั้นผลงานของเธอก็ได้รับการดูแลต่อโดย ฟิลิเป้ กีวโบเช่  จนถึงปีค.ศ. 1977

 

ปัจจุบันกิจการของมาดามชาแนล อยู่ภายใต้การบริหารงานของ Alain Wertheimer และ Gerard Wertheimer ซึ่งเป็นหลานของ Pierre Wertheimer ผู้ร่วมก่อตั้ง House of Channel โดยมี คาร์ล ลาเกอร์ฟิลด์  ดีไซน์เนอร์ชาวเยอรมัน เป็นผู้ดูแลการออกแบบของผลิตภัณฑ์ชาแนลทั้งหมดในตำแหน่ง Artistic Director ซึ่งเขาสามารถสืบสานสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาดามชาแนล และนำมาผสมผสานในงานของเขาได้อย่างลงตัว

 

แม้ว่ามาดามชาแนลจะอำลาโลกนี้ไปร่วม 42 ปีแล้ว แต่สไตล์ของเธอที่เป็นตำนานเกือบ 100 ปี  ยังคงเป็นอมตะ นี่คือเหตุผลว่า ทำไมสินค้าชาแนลหลายรุ่น ยังเป็นที่นิยมจนกลายเป็นรุ่น "timeless classic" เช่น กระเป๋าลายข้าวหลามตัดรุ่น 2.55 ซึ่งชื่อรุ่น มีที่มาจากเดือนและปีที่เปิดตัวกระเป๋ารุ่นนี้  คือ เดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1955 หรือแจ็กเกตผ้า tweed เดินเส้นด้วยไหมเงินหรือทอง โดยเสื้อแจ็กเกตของชาแนล มีราคาถึงตัวละ 1 แสนหกหมื่นบาท , ชุดสูทมีราคาเฉลี่ยอยู่ระดับ 2 แสนบาทขึ้นไป ส่วนกระเป๋ามีตั้งแต่ราคาย่อมเยาว์ที่สุดอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นบาท  ไปจนถึงราคาระดับแสนบาท และจะแพงกว่านั้น ในรุ่น Limited edition

 

นอกจากสินค้าแล้ว ความเป็นชาแนลยังถูกสะท้อนผ่าน "ช้อป" ซึ่งต้องแต่งด้วยรูปแบบ เดียวกัน เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่านี่คือชาแนล ที่เหมือนกันทุกมุมโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์  สะท้อนความหรูหราสไตล์ชาแนล  เช่น วัสดุเคลือบผนังเป็นลายคล้ายผ้า tweed  หรือห้องลองเสื้อผ้าแต่งด้วยงาช้างปลอม  ชั้นวางเคลือบด้วยผ้าไหม  ส่วนสินค้าจะถูกดิสเพลย์ภายใต้หลักที่เรียกว่า "reachable" เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงและลองสินค้าได้ทุกชิ้น

 

พนักงานขายในชอปของชาแนลเรียกว่า "fashion assistant" ส่วนพนักงานขายเครื่องสำอาง เรียกว่า "beauty assistant" ซึ่งผ่านการอบรมทั้งเทคนิคการขาย สินค้า และแบรนด์ รวมถึง Corporate Orientation Program มาเป็นยังดี ทำให้พนักงานรู้จัก mission, vision และ value ของแบรนด์

 

นี่คือความสำเร็จของ  ชาแนล  สินค้าอมตะ