ในปี 2013 แบรนด์สินค้าของประเทศจีน เป็นที่รู้จักไม่มากนักในอเมริกา แต่จากนี้ไป จีนจะพัฒนาแบรนด์ของตัวเองให้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้น หลังจากเปิดตัวแบรนด์สินค้าในงานมหกรรมโชว์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง คือ Consumer Electronics Show หรือ CES 2014 ที่ลาสเวกัส ซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 7-10 มกราคมที่ผ่านมา   

 

Millward Brown สำรวจพบว่ามีเพียง 6% ของคนอเมริกา รู้จักสินค้าจีน และรู้จักเพียงแค่แบรนด์เดียวเท่านั้น ทำให้จีนพยายามที่จะพัฒนาแบรนด์ของตัวเองให้เป็นที่สนใจมากขึ้น และนี่คือ 7 แบรนด์จีน ที่น่าจับตามองในปี 2014   

 

เริ่มด้วย Hisense (ไฮเซนส์) แบรนด์ดังที่จะมาตีตลาดโทรทัศน์ โดยการนำเสนอต้นแบบของ TV แบบ 3D และยังมี ultra high-definition smart TV ที่ได้เริ่มจำหน่ายแล้วที่ Costco ซึ่งการเปิดตัวเช่นนี้ สื่อให้เห็นถึงคลื่นลูกใหม่ของสินค้าจากเอเชียที่จะมากระทบสินค้าจากเกาหลีใต้ และซัมซุง ที่เป็นแบรนด์เจ้าใหญ่ของโลก

 

ตามด้วยเครือข่ายโทรศัพท์ อย่าง Huawei (หัวเว่ย) ที่จะโฟกัสในเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยด้านการส่งข้อมูลต่างๆ แต่ในเรื่องสมาร์ทโฟนแล้ว Huawei ได้วางแผนที่จะปล่อยโมเดลใหม่ในการติดต่อกันของบริษัทที่เป็นแบบ B-to-B ที่มียอดขาย smart phone 32 ล้านเครื่อง ในปี 2012 และขยับขึ้นถึง 50 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา (2013)

 

อีกหนึ่งแบรนด์ดัง Haier (ฮอยเออร์) มีชื่อเกี่ยวกับเรื่องเครื่องครัวและเครื่องใช้ในบ้าน และตอนนี้ได้เริ่มขยายสินค้า โดยทำการเปิดตัวโทรทัศน์ big-screen TV ที่ไม่ต้องใช้สายไฟ หรือ แบตเตอรี่ 

 

ส่วน Xiaomi (เสี่ยวมี่) อาจเป็นแบรนด์ที่เรียกยากสักนิด แต่เริ่มต้นได้เจ๋งทีเดียว โดยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนในราคาที่ไม่แพง มียอดขาย 18 ล้าน 7 แสนเครื่อง หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรกเพียง 2 ปี  และในปีนี้ ซีอีโอ Lei Jun (เล่ย จุน) ได้ตั้งเป้าหมายที่ 40 ล้านเครื่อง ที่น่าตกใจ ก็คือ Xiaomi ได้ทำการเปิดตัวมือถือและใช้ลูกเล่นการตลาด ทำให้ยอดขายสูงถึง 1 แสน 5 หมื่นเครื่อง ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที ผ่านแอพพลิเคชั่น Wechat  

 

และถ้าพูดถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ Lenovo จัดได้ว่าอยู่ในระดับ top เลยทีเดียว แต่ในปีนี้ Lenovo จะขยายตลาดโดยการเข้ามาแบ่งส่วนการตลาดโทรทัพท์มือถือในอเมริกา

 

มากันที่แอพพลิเคชั่น Wechat ของ Tencent (เทนเซ็นต์) ที่มาแรงในปี 2013 หลังจากวัยรุ่นที่ชื่นชอบ Facebook เริ่มลดความนิยมลง และยังต้องต่อสู้กับ Wechat ของ Tencent ที่รวมจุดเด่นของ Facebook / Instagram และ WhatsApp เข้าด้วยกัน ปัจจุบัน มีผู้ใช้กว่า 270 ล้านคนต่อเดือน 

 

ปิดท้ายกันที่ Alibaba (อาลีบาบา) เว็บไซต์ E-commerce รายใหญ่ในจีน ที่จะขยายอิทธิพลให้กลายเป็นเจ้าตลาด E-commerce ของโลก โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ Alibaba มีจะมีตัวหลักๆ เลย คือ เว็บ Tmall (ทีมอลล) ที่เป็นตลาดสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ และเว็บ Taobao (ทาวเบา) ที่มียอดส่งสินค้าถึง 70% ในจีน