คริสต์มาสและปีใหม่แบบนี้ เด็กๆหลายคนต่างมีลิสต์ของขวัญที่ตัวเองอยากได้จากพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นเกมกระดาน จักรยาน หรือตุ๊กตา แต่สิ่งที่เด็กๆส่วนใหญ่ในปัจจุบันอยากได้ก็คือ ของเล่นไฮเทคต่างๆ ช่วงนี้เราจะพาไปชมของเล่นไฮเทคที่เด็กๆอยากได้เป็นของขวัญปีใหม่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด มีการสำรวจสิ่งที่เด็กๆอยากได้เป็นของขวัญเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่มากที่สุด นั่นคือ เกมคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ โดยเด็กอายุ 13 – 18 ปีจำนวน 1 ใน 3 บอกว่า พวกเขาจะผิดหวังมากหากไม่ได้แก็ดเจทใหม่ล่าสุดเป็นของขวัญ อย่างไรก็ตาม อาการแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เนื่องจากของเล่นไฮเทคต่างอยู่ในรายการของขวัญที่เด็กๆอยากได้มาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 แล้ว
แม้ของเล่นบางอย่างในศตวรรษที่ผ่านมา อาจดูไม่ไฮเทคสำหรับเด็กสมัยนี้ แต่ของเล่นเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นทางเทคโนโลยีเลยทีเดียว อย่างเช่น เซ็ตรถไฟขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของไลออนเนล ในปี 2450 และ"อิเร็กเตอร์" ชุดของเล่นโลหะก่อสร้าง ที่นับเป็นชุดของเล่นโลหะก่อสร้างชุดแรกที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า กลายเป็นของเล่นอันดับ 1 รวมถึง "ทิงเคอร์ทอย" ที่เหมาะสำหรับเด็กที่เล็กเกินไปที่จะเล่น "อิเร็กเตอร์"
แม้ช่วงปี 2470-2480 จะเป็นช่วงที่เกมกระดานอย่างเกมโมโนโพลี และสแครบเบิ้ลจะได้รับความนิยมมาก แต่ช่วงนั้นก็มี เครื่องดูสไลด์ "วิวมาสเตอร์" ออกมาขายอย่างแพร่หลาย "วิวมาสเตอร์"จะใช้เลนส์ดูฟิล์มที่อยู่กับจานกระดาษแข็ง สามารถหมุนเพื่อเปลี่ยนภาพได้ และกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในช่วงปี 2520 เมื่อมีการออกจานชุดการ์ตูนดิสนีย์ แคร์แบส์ และอื่นๆ
ต่อมาในช่วงปี 2490 เป็นช่วงที่โมเดลรถยนต์และตุ๊กตาได้รับความนิยม บริษัทแมทเทลที่ผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ ได้เปิดตัวตุ๊กตาพูดได้ชื่อ "แชตตี้ แคทธี่" เมื่อปี 2502 โดย ตุ๊กตาตัวนี้พูดได้ 11 ประโยค ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติวงการของเล่นเลยทีเดียว และในช่วงเวลาเดียวกัน ก็มีกระดานวาดรูปอย่าง "เอทช์ อะ สเก็ทช์" ออกมาขาย
ปี 2521 มีเกมคอนโซลที่ต่อกับโทรทัศน์ของนินเทนโด ออกมา และได้รับความนิยมมากเป็นเวลาหลายสิบปี จนในปี 2552 เกมคอนโซลได้รับการโหวตให้เป็นเกมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในเวลาไล่เลี่ยกันก็มีเกมบอยออกมา และช่วงนี้ถือเป็นช่วงเริ่มต้นของเกมยุคใหม่ จากนั้นในช่วงปี 2530 ก็เริ่มมีการปล่อยเกมเพลย์สเตชั่นของโซนี่ และ นินเทนโด ซิกซ์ตี้โฟร์ออกมา
ในช่วงเดียวกันนั้นเอง ก็มีเฟอร์บี้รุ่นแรกออกมา เจ้าสัตว์ประหลาดขนฟูที่สามารถพูดและตอบโต้กับเจ้าของได้ เฟอร์บี้ได้รับความนิยมมากจนยอดขายในปี 2541-2542 สูงถึง 40 ล้านตัว เรียกได้ว่าเป็นของขวัญคริสต์มาสหรือของขวัญปีใหม่ที่พ่อแม่แทบทุกคนต้องซื้อให้ลูกๆ จนในปี 2555-2556 "แฮสโบร" ได้พัฒนาเฟอร์บี้รุ่นใหม่ ให้สามารถคุยกันเองได้ผ่านระบบอินฟาเรด และสามารถเล่นกับไอแพดได้ด้วย
เทรนด์การดูแลสัตว์เลี้ยงไฮเทคในช่วงปี 2530 ทำให้ช่วงนั้นมีเจ้า"ทามาก็อตจิ" สัตว์เลี้ยงดิจิตอลที่เจ้าของต้องให้อาหาร ให้น้ำ และพาไปออกกำลังกาย ที่ต้องดูแลกันตั้งแต่ยังเป็นไข่จนตาย ทามาก็อตจิพัฒนามากว่า 45 เวอร์ชั่น จนปัจจุบันกลายเป็นแอพพลิเคชั่นที่เล่นได้ในสมาร์ทโฟน
ช่วงปี 2540-2550 ก็มีเกมอย่าง เอ็กซ์บ็อกซ์ เพลย์สเตชั่น 3 และนินเทนโดวี ออกมา และแน่นอนว่า ในช่วงนั้นก็มีโทรศัพท์มือถือลูกเล่นใหม่ออกมา และจากนั้นเป็นต้นมา โทรศัพท์มือถือก็พัฒนาเรื่อยมาจนเป็นสมาร์ทโฟน และแท็บเลต ซึ่งกลายเป็นของขวัญปีใหม่ที่เด็กๆอยากได้มากที่สุดในปีนี้