เปิดชุดความคิดของนักวิชาการที่สนับสนุนการต่อต้านรัฐบาล ที่เสนอให้ทิ้งหลักการความเสมอภาคของปัจเจกบุคคล พบว่ามีความพยายามเสนอแนวคิดดังกล่าวมาก่อนหน้านี้
เปิดชุดความคิดของนักวิชาการที่สนับสนุนการต่อต้านรัฐบาล ที่เสนอให้ทิ้งหลักการความเสมอภาคของปัจเจกบุคคล พบว่ามีความพยายามเสนอแนวคิดดังกล่าวมาก่อนหน้านี้
ในช่วงการชุมนุมต่อต้านรัฐบาล นักวิชาการส่วนหนึ่งที่เป็นผู้นำทางความคิดและเข้าร่วมชุมนุมได้ชูแนวคิดล้มหลักการ 1 คน 1 เสียง ซึ่งเป็นพื้นฐานของความเสมอภาคเท่าเทียม โดยอ้างสภาพทางสังคมและความแตกต่างด้านฐานะทางเศรษฐกิจ ระดับการศึกษามาเป็นเหตุผล
โดยนายเสรี วงศ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและประชาสัมพันธ์ชื่อดัง เคยปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมเปรียบเทียบคนเมือง 3 แสนคนมีคุณภาพมากกว่า 15 ล้านเสียงที่เลือกรัฐบาล
ขณะที่ นายจรัสพงษ์ สุรัสวดี หรือ "ซูโม่ตู้" ที่เคยร่วมกับผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล บุกยึดสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ก็เคยเสนอให้คนที่ศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง เช่นเดียวกับนายพิศณุ นิลกลัด พิธีกรและคอลัมนิสต์ชื่อดัง เคยแสดงความเห็นผ่านบทความในหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อกลางปี 2554 สนับสนุนแนวคิดที่ให้ผู้สิทธิ์เลือกตั้งต้องจบปริญญาตรี ด้วยเหตุผลว่าศึกษาชี้วัดคุณภาพของคนเลือก ซึ่งจะทำให้ได้ผู้แทนฯ ที่มีคุณภาพ
ล่าสุดในเวทีชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ปรากฏ ศาสตราจารย์สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ ที่ปรึกษากลุ่มผู้ชุมนุม ได้เสนอแนวคิดนี้อีกครั้งว่า หลักการ 1 คน 1 เสียงไม่เหมาะที่จะใช้กับสังคมไทย
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์สมบัติ จบการศึกษาระดับปริญญาโทรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาเอก สาขาการบริหารการพัฒนา จากสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์หรือนิด้า เคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีนิด้า และยังเคยเป็นเลขาธิการศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2516