แกนนำพรรคฝ่ายค้าน แถลงร่วมกันหลังจากที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในเวลา โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้เห็นประโยชน์ในเวลาที่เหลือ ซึ่งฝ่ายค้านเหลือมีผู้อภิปราย 5 คน ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎรพยายามช่วยเจรจาขอเวลาเพิ่มให้กับฝ่ายค้าน แต่รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของเวลาที่เหลือ เหมือนไม่อยากให้ฝ่ายค้านนำสิ่งสำคัญมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ จึงตัดสินใจปล่อยให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป โดยฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้

ส่วนที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่รู้สึกหวาดระแวง เนื่องจากไม่สามารถบริหารจัดการเวลา จนทำให้ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่หลายคนไม่ได้อภิปราย นายสมพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งการเจรจาระหว่างทุกฝ่ายก็มีพรรคอนาคตใหม่เข้ามาร่วมด้วย และเชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่เห็นความพยายามของฝ่ายค้าน เพื่อให้การอภิปรายสามารถดำเนินต่อไปให้ถึงที่สุด พร้อมฝากให้ดูมติฝ่ายรัฐบาลวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) ว่าอาจมีเสียงลงมติรัฐมนตรีบางคนที่ไม่เท่ากัน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลทั้งหมด 6 คน แต่อภิปรายไปเพียง 4 คนเท่านั้น เหลืออีก 2 คนคือพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องอภิปรายให้ครบถ้วน จึงจะสมบูรณ์และสามารถสรุปปิดอภิปรายได้ แต่เมื่ออภิปรายรัฐมนตรีไม่ครบ จึงไม่สามารถสรุปการอภิปรายได้ พร้อมย้ำว่าเวลาที่ตกลงกันนั้นเป็นเวลาที่กำหนดโดยประมาณ แต่จริงๆ แล้วมีเวลาอภิปรายได้ก่อนเที่ยงคืนวันนี้ ซึ่งประสบการณ์ที่ผ่านมา การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็สามารถขยายได้ ไม่ต้องจบตามเวลา แต่เข้าใจว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้คงเข้าใจว่าสามารถสั่งการได้แบบทหาร จึงมองว่าเสียงข้างมากควรให้โอกาสเสียงข้างน้อยได้ตรวจสอบ แต่กลับเลือกปิดโอกาสประชาชนได้รับฟังการอภิปราย

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า คิดว่ากรอบเวลาจะมีการยืดหยุ่นกันได้ แต่ประเมินน้ำใจรัฐบาลผิด แม้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะขอเวลาให้อีก 1 ชั่วโมง แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ให้ ดังนั้นเมื่อการอภิปรายไม่ครบถ้วน ก็ไม่สามารถสรุปการอภิปรายได้ จึงลงมติไม่ได้ ซึ่งตนเองรู้สึกเสียดายโอกาสมากที่ไม่ได้สรุปการอภิปราย

ส่วนปัญหาฝ่ายค้านบริหารจัดการเวลากันเองไม่ได้ จนทำให้อภิปรายรัฐมนตรีได้ไม่ครบตามญัตติ จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นล้มมวย นายสุทิน กล่าวว่า ทางฝ่ายค้านยืนยันสู้ถึงที่สุด แต่การบริหารคนและเวลาไม่สามารถจัดการได้หน้างาน จึงเกิดความคลาดเคลื่อนบ้าง

ส่วนที่พรรคอนาคตใหม่อาจรู้สึกหวาดระแวง เนื่องจากไม่สามารถบริหารจัดการเวลา จนทำให้ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่หลายคนไม่ได้อภิปราย นายสุทิน กล่าวว่า เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน แต่คิดว่าเมื่อคุยกันแล้วจะเข้าใจกัน เชื่อว่าไม่มีปัญหา ยืนยันว่าการจัดอันดับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรอง นายกรัฐมนตรีไว้สุดท้าย ไม่ได้มีการวิ่งเต้น แต่เป็นการจัดลำดับตามความน่าสนใจ โดยขึ้นต้นที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และปิดท้ายด้วยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ประชาชนติดตาม แต่ที่เกิดเหตุเพราะการบริหารเวลาผิดพลาด หากฝ่ายรัฐบาลยืดหยุ่นให้มีการอภิปรายต่อก็ไม่น่าจะมีปัญหา

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีการให้ปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนจะอภิปรายรัฐมนตรีครบทั้งหมด และเชื่อว่าหากขยายเวลาอีก 1 ชั่วโมงจะสามารถอธิบายได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าพล.อ.อนุพงษ์ และพล.อ.ประวิตร ประสงค์ไม่ให้เกิดการอภิปราย จึงมีการปิดกั้นไม่ให้อภิปราย ยืนยันว่าทางฝ่ายค้านไม่ได้สมรู้ร่วมคิด

ส่วนเหตุการณ์ในอดีต สมัยพรรคเพื่อไทยเคยเป็นรัฐบาล และใช้เสียงข้างมากปิดการประชุมที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน นายแพทย์ชลน่าน ยอมรับว่า การปิดอภิปรายทั่วไปหรือพิจารณากฎหมายสามารถทำได้ แต่การปิดอภิปรายในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เคยเกิดขึ้น

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วให้มีการลงมติในวันพรุ่งนี้ (28 กุมภาพันธ์) เวลา 09.30 น.ว่า ขอขอบคุณทางพรรคฝ่ายรัฐบาลทั้ง 18 พรรค ที่ได้อยู่ร่วมเป็นองค์ประชุมและอยู่จนการอภิปรายได้เสร็จสิ้น ในขณะเดียวกันก็ขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ได้เฝ้าติดตามการอภิปรายตลอด 4 วันเต็มๆ ซึ่งเราได้โอกาสให้อภิปรายอย่างเต็มที่ โดยฝ่ายค้านได้เวลา 33 ชั่วโมง พรรครัฐบาลที่ได้โอกาสชี้แจงเพียง 15 ชั่วโมง เพราะฉะนั้น ตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ จนถึงบัดนี้ เป็นไปตามที่พวกเราได้เตรียมการไว้

นายวิรัช กล่าวว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การประชุมกลับมาติดขัดในช่วงสุดท้าย เพราะตนสังเกตว่า ในตอนช่วงเช้าวันนี้ ทำไมพรรคเพื่อไทยปล่อยให้มีการอภิปรายได้อย่างเต็มที่ ทั้งๆ เหลือเวลาแค่ 3 ชั่วโมง 50 นาที อีกทั้งเมื่อหมดเวลาแล้ว ก็ยังขอเวลาในส่วนอื่นเพิ่มเติมทีหลัง จนเกิดความไม่พอใจกัน ซึ่งตนยืนยันว่า ในวันลงมติวันที่ 28 ก.พ.นี้ เวลา 09.30 น.จะมีการประชุมเพื่อลงมติเช่นเดิม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ บอกว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นมวยล้มต้มคนดู ระหว่างรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายวิรัช กล่าวว่า ใครจะมองอย่างไรตนไม่ทราบ แต่เท่าที่ดูข้อมูลของฝ่ายค้านมีแต่เอาเรื่องเก่ามาพูดร้อยละ 80 มีเพียงร้อยละ 20 ที่เป็นเรื่องใหม่ แล้วแต่มุมมอง เชื่อว่าประชาชนคงมองเห็นว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปราย ได้ตอบคำถามฝ่ายค้านอย่างครบถ้วน ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบ ส่วนที่ฝ่ายค้านจะไม่มาร่วมในวันลงมติก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าเสียงของเราผ่านกึ่งหนึ่ง คือ 244 เสียง