พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงผลการโหวตร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2563 ที่ใช้ระยะเวลาในการพิจารณาถึง 4 วัน ว่า ตนขอรวบรวมเอกสารการประชุมและการลงคะแนนทั้งหมดจากสภาผู้แทนราษฎรมาศึกษาดูก่อน โดยต้องมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ และเมื่อได้เอกสารการประชุมและการโหวตลงมติแล้วนั้นจะตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วน 

พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ที่ผ่านมามีกรณีการฟ้องเกี่ยวกับการโหวตลงมติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในสภาฯ และศาลพิจารณาคดีวินิจฉัยแล้วให้ยกฟ้องคำร้องมาโดยตลอด ว่า ตนไม่กังวล เพราะการดำเนินการดังกล่าวต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารอย่างรอบคอบ

ส่วนหากมีการฟ้องคดีนี้แล้วอาจมีผลให้เกิดการใช้งบประมาณล่าช้าและจะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคเสรีรวมไทยหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่กระทบแน่นอน เพราะงบประมาณผ่านไปแล้วจะกระทบได้อย่างไร ถึงกฎหมายงบประมาณไม่ผ่านสภา ก็สามารถใช้งบประมาณของปีก่อนไปพลางได้ ที่รีบอยากได้งบประมาณกันเป็นเพราะอยากได้เงินทอนกันหรือเปล่า ตนเองเชื่อว่าหลายหน่วยงานไปดำเนินการกันและสั่งผู้รับเหมาในพื้นที่ดำเนินการกันหมดแล้ว ถึงงบประมาณลงไปก็เบิกจ่ายกันเลย ดังนั้น จะต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้ง 

นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจภายหลังพรรคเพื่อไทยเตรียมจะไม่อภิปรายในส่วนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ว่า 7 พรรคฝ่ายค้านมารวมกันไม่เอารัฐบาล แต่ละพรรคมีอิสระ คงไปทำอะไรไม่ได้ จริงๆ แล้วพรรคใครพรรคมัน พรรคเพื่อไทยจะอภิปรายใครก็เรื่องของพรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทยจะอภิปรายใครก็เป็นสิทธิของพรรค แต่มีกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งที่ต้องมาคุยกัน คือ เมื่อประธานสภาจะกำหนดให้อภิปรายกี่วันแล้วตีเป็นรายชั่วโมงออกมาแล้วก็นำมาคำนวณเป็นเวลาอภิปรายของแต่ละพรรค

ยืนยันว่าพรรคเสรีรวมไทยจะมุ่งมั่นตรวจสอบการทำงานของทุกหน่วยงาน เพื่อไม่ให้มีการทุจริตในประเทศไทย และไม่กังวลถึงผลกระทบใดๆ ที่จะเกิดขึ้นกับทางพรรค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• 'ภูมิธรรม' ปัดดีล รบ. ไม่ปิดช่องพรรคร่วม ซักฟอก 'ประวิตร'