ควอนตัส สายการบินแห่งชาติออสเตรเลียประกาศว่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อตอบสนองเสียงเรียกร้องจากสังคมที่ร่วมกันรณรงค์ให้แก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

อลัน จอยซ์ ซีอีโอของควอนตัสกล่าวว่า พวกเขาจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เพราะเป็นความรับผิดชอบที่ควรจะทำ และปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นความจริง ไม่ใช่ทฤษฎีสมคบคิดอย่างที่หลายคนพยายามจะบอก

ควอนตัสจะควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไม่ให้สูงขึ้นให้ได้ภายในปี 2020 และทุ่มทุน 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1,040 ล้านบาทในช่วง 10 ปีข้างหน้าเพื่อพัฒนาเชื้อเพลิงแบบยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าว่าจะให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งหมดลงให้เหลือ 0 ภายในปี 2050

ควอนตัสเคยทดลองบินจากนครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ ไปยังเมลเบิร์นของออสเตรเลีย ด้วยเชื้อเพลิงชีวภาพจากเมล็ดมัสตาร์ดมาแล้ว จอยซ์กล่าวว่า พวกเขารู้ว่าเทคโนโลยีสามารถทำเป้าหมายนี้ให้เกิดขึ้นจริงได้ โดยที่สามารถทำเป็นเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่โดยไม่กระทบสิ่งแวดล้อมด้านอื่นๆ ด้วย ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากเชื้อเพลิงเครื่องบินทั่วไปได้ถึงร้อยละ 80

ช่วงที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการบินถูกกดดันอย่างหนักจากกลุ่มผู้รณรงค์กระแสต่อต้านปัญหาโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะตอนที่เกรียตา ธืนแบร์ก นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เรียกร้องให้คนร่วมกันแบนการเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะอุตสาหกรรมการบินปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศปริมาณมหาศาล

งานวิจัยจาก MIT ระบุว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนของอุตสาหกรรมการบินส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตก่อนเวลาอันควรจากมลพิษทางอากาศประมาณ 16,000 รายต่อปี แม้ตัวเลขนี้จะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นๆ คิดเป็นประมาณร้อยละ 0.4 ของการเสียชีวิตทั้งหมดจากคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่ แต่อุตสาหกรรมการบินมักถูกยกเว้น ไม่ถูกนำมารวมอยู่ในกระบวนการวิเคราะห์นโยบายสิ่งแวดล้อม

ที่มา ; Channel News Asia, Science Daily