พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในงานวันต่อต้านคอรัปชั่นสากลประเทศไทย ประจำปี 2562 มอบรางวัล การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส ของหน่วยงานภาครัฐประจำปี 2562 และการแข่งขันกิจกรรมเดินวิ่ง Good Guy Run 2019 รวมพลังวิ่ง เพื่อส่งเสริมความดี ให้กับผู้ชนะเลิศ 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับทุกหน่วยงานและองค์กรที่ได้รับรางวัล ซึ่งถือเป็นการขยายความรับรู้ในทางที่ดี ทั้งยังเป็นการนำร่อง เชื่อมโยงเครือข่ายต่อต้านทุจริตคอรัปชั่นในทุกพื้นที่ และย้ำว่าความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนคือสิ่งสำคัญในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน ประเทศในสิ่งที่ดีกว่าในทุกมิติ สำหรับการแก้ปัญหาทุจริต ต้องเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เช่นการเข้าแถว การเคารพกฎจราจร เพื่อไม่นำไปสู่ปัญหาการทุจริตอื่นๆ ที่สำคัญกฎหมายจะเป็นกลไกลหลักสร้างความเท่าเทียมให้กับทุกคน เพราะหากมีการกระทำผิดทุกอย่างต้องเข้าสู่กระบวนการกฎหมาย ไม่มีคำว่าคนจน ติดคุก คนรวยไม่ติดคุก  

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาล ป.ป.ช.และเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อแสดงจุดยืนของคนไทยในการต่อต้านการทุจริต สร้างความตระหนักถึงภัยร้ายแรงของปัญหานี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาทั้งในส่วนของวงราชการ และฝ่ายการเมือง มีการปรับปรุงกฎหมาย สร้างความโปร่งใสในการดำเนินการภาครัฐมีกระบวนการยุติการแทรกแซง และวางมาตรการคุ้มครอง พยาน กำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิด โดยภาคเอกชน ประชาสังคมต้องเข้ามามีส่วนร่วม ขณะที่ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 3 ปี 2560-2564 กำหนดเป้าหมาย ให้ประเทศไทยใสสะอาด ไทยทั้งชาติ ต้านทุจริต เน้นวางรากฐานทางความคิด ไม่อดทนต่อการทุจริต ก้าวข้ามค่านิยมอุปถัมส์ โดยสิ่งสำคัญคือสร้างการรับรู้ และช่วยกันอย่างจริงจัง เพื่อให้การต่อต้านทุจริตเป็นวัฒนธรรมของสังคมไทยต่อไป 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์การทุจริตในประเทศไทยดีขึ้น ผู้กระทำผิดจะถูกต่อต้านและลงโทษ จากหน่วยงานและสังคม โดยแนวทางที่เชื่อว่าจะแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นได้ คือ การใช้แนวทางประชารัฐ ในการแก้ปัญหา อย่าต่อเนื่อง แม้การประเมินสถานการณ์ทุจริตจะดีขึ้น แต่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันต่อไป รัฐบาลก็จะปรับปรุงกฎหมาย ให้เป็นสากล ตนเองสนับสนุน ให้ทุกโรงเรียนมีหลักสูตรการต่อทุจริต สร้างการรับรู้ตั้งแต่เด็ก เพราะเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาจิตใจเราต้องพัฒนาให้ทัน 

พร้อมบอก ขณะนี้ทำงานหนักขึ้นมากกว่า 5 ปี ที่ผ่านมา เพราะไม่มีกฎหมายพิเศษแล้ว ทุกคนต้องเข้าใจ แม้บางเรื่องอาจจะช้าไม่ทันใจ สิ่งสำคัญคือประชาชนต้องเข้าใจในการทำงาน ไม่ใช้ความรู้สึกตัดสิน ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ก้าวล่วงใครไม่ได้ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ยากที่จะทำได้ เชื่อว่าทุกคนคาดหวังจากตนเอง ซึ่งตนเองก็ถูกฝึกมาให้ทำงานอย่างใจเกินร้อย ซึ่งขณะนี้ตนเองก็ได้ทำอยู่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และทุกคนต้องช่วยกันทำงานหนัก 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวนำคนไทยทั่วประเทศร่วมกันประกาศเจตนารมย์ในวันต่อต้านคอรัปชั่นสากล ว่า ขอประกาศเจตนารมย์ว่า จะประพฤติปฎิบัตตนด้วยความซื้อสัตย์สุจริต ไม่กระทำการทุจริต จะยึกมั่นในความยุติธรรม ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน จะปกป้องเทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยจิตอาสาพร้อมทำความดีด้วยหัวใจตลอดไป

ทั้งนี้ ภายหลังเปิดงานนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมถ่ายรูปกับนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา 2 ที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมได้เซ็นชื่อให้แก่นักเรียนในสมุดระเบียนความดี ซึ่งสมุดเล่มนี้เป็นการบันทึกการทำความดีของนักเรียนในการช่วยเหลือสังคม โดยสามารถนำสมุดเล่มนี้ไปยื่นเพื่อสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้